วันนี้ (31 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายปรีชา (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่ของวัดปากน้ำ นนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ว่ามีพระรูปหนึ่ง ชื่อ ชื้น อายุ 91 ปี มรณภาพจากอาการเครียดสาเหตุจากที่ถูกชายคนหนึ่งเป็นมิจฉาชีพมาทำทีขอแลกเงินหลวงตาชื้น จนหลวงตาเครียดและชักหมดสติกระทั่งมรณภาพในเวลาต่อมา
เวลา 05.57 น.วันนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวัดบันทึกภาพ ขณะที่ชายคนหนึ่งสวมหมวกกันน็อก ขี่รถ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนสีเขียว ตรงเข้ามายังหน้ากุฏิก่อนที่จะเคาะประตูเรียกพระชื้น ออกมาแล้วทำทีของแลกเงิน หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็ขี่รถ จยย.ออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาช่วงเวลา 08.46 น.หลังเกิดเหตุภาพจากกล้องวงจรปิดก็บันทึกภาพได้ในขณะที่ พระชื้นนั้นเกิดอาการชักและหมดสติไป พระลูกวัดจึงช่วยกันทำการปั๊มหัวใจระหว่างรอรถพยาบาลมาถึง
นายปรีชา เจ้าหน้าที่วัดปากน้ำ กล่าวว่า ช่วงเช้าหลวงตาออกมาจากกุฎิมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งเป็นที่หลวงตานั่งเป็นประจำทุกวันพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ถูกคนร้ายเป็นชายถือซองขาวทำทีมาขอแลกเงิน ซึ่งหลวงตาอายุมากแล้วประกอบกับดวงตาเสียไป 1 ข้าง หลวงตาไม่คิดอะไรก็เลยยืนกระเป๋าสตางค์ให้กับชายคนดังกล่าว
จากนั้นชายผู้ก่อเหตุจึงได้นำเงินจำนวน 5,000 บาท ไปและทิ้งซองเปล่าให้กับหลวงตาไว้ ก่อนที่จะขี่รถ จยย.ออกไป โดยการพูดคุยหลวงตายังบอกอีกว่าจำได้ว่าเป็นคนเดียวกันที่เคยมาก่อเหตุไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 65 และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี โดยการก่อเหตุครั้งแรกก็เวลาเดียวกันได้เงินไป 3,000 บาท จนกระทั่งเวลา 08.46 น.หลวงตาบ่นว่ามีอาการมึนหัวก่อนที่จะเกิดอาการชักและหมดสติไป โดยตนเองและพระลูกวัดต้องช่วยกันปฐมพยาบาลด้วยการปั๊มหัวใจในระหว่างรอรถพยาบาลมา จนเวลาผ่านไปถึงช่วงสายทางโรงพยาบาลแจ้งว่าหลวงตาชื้น มรณภาพแล้ว โดยตนเองและทุกคนในวัดมั่นใจว่าหลวงตาแกเครียดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถึงแม้แกจะมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจและหอบก็ตาม แต่หลวงตารักษาตัวอยู่ต่อเนื่องไม่เคยมีอาการมาก่อนแถมยังเดินเหินได้ตามปกติอาจจะช้าบ้างไปตามอายุ
นายปรีชา จึงฝากเรื่องให้กับทางสื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้เป็นข่าว โดยเฉพาะวัดอื่นๆและพระที่มีอายุมากให้ระวังมิจฉาชีพรายนี้ และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับตัวมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
เบื้องต้นทางวัดได้มอบหมายให้ลูกศิษย์ติดตามความคืบหน้าคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
