ชาวบ้านประท้วงบริษัทเรือน้ำมันระเบิด เร่งจ่ายค่าบ้านพัง จ.สมุทรสงคราม

View icon 47
วันที่ 1 ก.พ. 2566 | 06.30 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ชาวบ้านแหลมใหญ่ จังหวัดสมุทรสงครามกว่า 100 คน ยกขบวนไปเรียกร้องความรับผิดชอบค่าเสียหาย กรณีเรือน้ำมันระเบิดจนบ้านพัง

เมื่อวานนี้ ชาวบ้านตำบลแหลมใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม กว่า 100 คน ยกขบวนไปชุมนุมกันบริเวณหน้าอู่ซ่อมเรือรวมมิตรด๊อคยาร์ด ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลขนาดใหญ่ ความจุ 3 ล้านลิตร ชื่อ "สมุธซี 22" ที่จอดซ่อมบำรุงได้เกิดระเบิดเสียงดังไปไกลกว่า 10 กิโลเมตร ก่อนจะเกิดไฟลุกไหม้ เป็นเหตุให้คนงานได้บาดเจ็บ 4 คน และมีผู้เสียชีวิต 8 คน แรงระเบิดอย่างรุนแรงได้ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงในรัศมี 4-5 กิโลเมตร โดนแรงอัดได้รับความเสียหาย เช่น กระจกประตูหน้าต่างแตก ฝ้าเพดานตกแตก พื้นและผนังฝาบ้านที่เป็นปูนแตกร้าวนับร้อยหลังคาเรือน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา และเมื่อชาวบ้านเดินไปถึงหน้าอู่เรือ ปรากฏว่าประตูรั้วหน้าอู่ดังกล่าวปิด ชาวบ้านจึงรวมตัวกันหน้าประตู

กลุ่มผู้เรียกร้องนำโดย นายสำราญ นุตรักษ์ และ นายสถาพร สกุลแก้ว ชาวบ้านหมู่ 8 ตำบลแหลมใหญ่ บอกว่า หลังเกิดเหตุ ได้มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาสำรวจความเสียหายและบอกให้ชาวบ้านรอการซ่อมแซม อย่าซ่อมเองเพราะจะทำให้ไม่ได้รับเงินที่ซ่อมแซมคืน ส่วนเจ้าของเรือรับผิดชอบด้วยการจ่ายเงิน "ค่าตกใจ" ให้บ้านที่ได้รับผลกระทบครัวเรือนละ 5,000 บาท แต่การจ่ายเงินยังไม่ครบถ้วน เพราะยังมีบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งทางราชการสำรวจแล้วนับร้อยหลังคาเรือน แต่กว่าครึ่งยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว เช่น บ้านของตนนอกจากยังไม่ได้รับเงินค่าตกใจแล้ว กระจกประตู หน้าต่าง รวมทั้งฝ้าเพดานที่ตกแตกได้รับความเสียหาย ทางบริษัทยังเงียบเฉยไม่มีความชัดเจน ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นธรรม ออกไปทำมาหากินก็เป็นห่วงบ้านเพราะประตูหน้าต่างปิดไม่ได้ เรื่องนี้หากทางผู้รับผิดชอบบริษัทเรือไม่ออกมาเจรจาเพื่อความชัดเจน ตนและชาวบ้านจะบุกไปยังศาลากลางจังหวัดร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมต่อไป
ปล่อยเสียงชาวบ้าน

ต่อมาตัวแทนดูแลท่าเรือบรรทุกน้ำมันที่ระเบิด ได้มาเจรจาชี้แจงกับชาวบ้านเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา โดยระบุว่าทางบริษัทยินดีรับผิดชอบ แต่ตอนนี้ที่มีปัญหาคือ ราคาประเมินความเสียหายของบ้านที่ได้รับผลกระทบ ที่ชาวบ้านมองว่าต่ำเกินไปจนรับไม่ได้ ซึ่งเป็นส่วนที่ทางการประเมิน แต่ส่วนต่างที่เจ้าของบ้านประเมินทางบริษัทต้องให้ชาวบ้านรวบรวมข้อมูลมาพูดคุยหารืออีกครั้ง ส่วนตัวเลขจำนวนความเสียหาย ทางบริษัทยืดยึดตัวเลขของจังหวัดที่รวบรวมบ้านเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนก่อนหน้านี้ ส่วนที่ตกหล่นทางบริษัทจะเข้าไปคุยรายครัวเรือนต่อไป ยืนยันบริษัทพร้อมจะช่วยเหลือเยียวยาไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด ซึ่งเพื่อความรวดเร็วทางบริษัทจะไปตั้งโต๊ะ ที่ อบต.แหลมใหญ่ รวบรวมข้อมูลความเสียหายบ้านเรือนของชาวบ้านใหม่ทั้งหมด ซึ่งชาวบ้านพอใจพากันเดินทางไปที่ อบต.แหลมใหญ่ ทำให้บรรยากาศคลี่คลายและชาวบ้านต่างพอใจทยอยกันมาลงชื่อแจ้งความเสียหายกันนับร้อยคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง