ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา น.ส.นิภาพร อายุ 34 ปี นำคลิปภาพเหตุการณ์ร้องเรียนกับทางผู้สื่อข่าว โดยเป็นชายวัยรุ่นสวมใส่หมวกกันน็อก ชักอาวุธปืนมาข่มขู่น้องชายตน แถมท้าทายว่าไม่กลัวตำรวจ ก่อนที่ยายของตนจะเข้าไปห้ามจนถูกผลักล้มและเข้ามาต่อยน้องชายตน จากสาเหตุตกปลามาแล้วแบ่งปลากันไม่ลงตัว
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านพักของผู้เสียหาย ที่ ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อพูดคุยสอบถามถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้น ได้พบกับ นายสุรวุฒิ อายุ 20 ปี เป็นผู้พิการทางสมองประเภท 5 ที่ถูกทำร้าย และ น.ส.สมพงษ์ อายุ 73 ปี หญิงชราที่เข้าไปห้ามก่อนถูกผลักจนล้ม
นายสุรวุฒิ เปิดเผยว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ ตนเองและนายพีรภัทร ชายในคลิปได้ไปตกปลากันในคลองหลังบ้าน แล้วได้ปลามา 3 ตัว เป็นปลายี่สก 2 ตัว และปลาสวาย 1 ตัว ซึ่งเป็นตัวใหญ่น้ำหนักประมาณ 6 กิโลกรัม แต่ปลาสวายนั้นเป็นเบ็ดของตนที่ตกได้ จึงไม่ให้นายพีรภัทร ทำให้นายพีรภัทรไม่พอใจ ทะเลาะโต้เถียงกัน ก่อนนายพีรภัทรจะกลับบ้านไป หลังจากนั้นนายพีรภัทรได้ทักข้อความเฟซบุ๊กมาหา ทวงเบ็ดที่ลืมเอากลับไป ตนเองก็เลยบอกว่าหักเบ็ดของนายพีรภัทรทิ้งไปแล้ว
กระทั่งเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 1 ก.พ. 66 นายพีรภัทร ได้พาเพื่อนมาหนึ่งคน ย้อนกลับมาที่บ้านของตน และถามหาเบ็ด ก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะวิวาทด่าทอกันไปมา จากนั้นนายพีรภัทรได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาขู่ แถมท้าทายว่าไม่กลัวตำรวจ จนเริ่มทะเลาะกันหนักขึ้น ทำให้ยายของตนได้เข้ามาห้าม ก่อนจะถูกนายพีรภัทรผลักล้ม แล้วเข้ามาชกตนที่บริเวณใบหน้าหนึ่งครั้ง และแยกย้ายกันไป ส่วนเบ็ดของนายพีรภัทร ตนไม่ได้หักทิ้ง เป็นเพียงการบอกไปก่อนหน้าด้วยความโมโหเท่านั้น และนายพีรภัทรได้เอาเบ็ดกลับไป
ด้าน น.ส.สมพงษ์ บอกว่า ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มากัน 2 คน หลานตนเองอยู่คนเดียว ตนเองนั่งอยู่ในบ้านได้ยินเสียงทะเลาะกันด้านนอก จึงออกมาดู แล้วก็พยายามห้ามไม่ให้ทั้ง 2 คนทะเลาะกัน และให้ผู้ก่อเหตุกลับไป ช่วงที่ผู้ก่อเหตุกำลังเข้ามาหาหลานตน เกิดชุลมุนกันจนถูกผลักล้ม จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ต่อยหลานตน ตอนนี้รู้สึกปวดตัวและระบมไปหมด
ขณะที่ น.ส.นิภาพร กล่าวว่า น้องชายของตนเป็นผู้พิการประเภท 5 ตอนเด็กๆมีอาการชักเกร็ง จนลุกล่ามเป็นเชื้อราในสมอง จะมีอาการควบคุมตนเองไม่ค่อยได้ ถามตอบช้า และบางทีอาจจะไม่รู้เรื่อง มีบัตรประจำตัวผู้พิการ ตอนนี้ยังคงรักษาและต้องกินยาอยู่ ซึ่งช่วงเย็นได้พาน้องชายและยายไปแจ้งความไว้กับ ร.ต.ท.พิทักษ์พงษ์ กาวี รอง.สว.(สอบสวน) สภ.บางน้ำเปรี้ยว เพื่อให้ช่วยติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพราะตอนนี้ครอบครัวตนเองรู้สึกหวาดกลัว เพราะผู้ก่อเหตุขู่ไว้ และกลัวว่าจะย้อนกลับมาก่อเหตุอีก หรือแอบซุ่มมาทำร้ายโดยไม่รู้ตัว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว