"พล.อ.ประยุทธ์" เจอชาวสวนผลไม้ตั้งเงื่อนไข ให้งบช่วยแล้วจะเลือกเป็นนายกฯ ลั่นไม่ชอบ ไม่จำเป็น!!

"บิ๊กตู่" ลงพื้นที่สมุทรสงคราม พูดจนไฟดับ ก่อนออกอาการไม่ชอบใจ ชาวบ้านตั้งเงื่อนไข ให้งบการเกษตรแล้วจะเลือกเป็นนายกฯ อีก 2  ลั่นไม่ชอบไม่จำเป็นต้องตั้งเงื่อนไข ย้ำอะไรที่ทำไม่ได้ จะไม่พูดหาเสียงเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ก.พ.66) ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการะทรวงกลาโหม หารือแนวทางส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างมูลค่า และยกระดับรายได้ประชาชน ที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม มีชาวประมง สะท้อนปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายที่เข้มงวดกับชาวประมงพื้นบ้าน อยากให้รัฐบาลช่วย ขณะที่ ชาวนาเกลือขอประกันราคาเกลือ 1.50 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนชาวสวนมะพร้าว ขอให้ประกันราคามะพร้าวไม่ต่ำกว่าลูกละ 15 บาท ส่วนตัวแทนเกษตรกรไม้ผล ขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรในจังหวัดให้มากที่สุด หากทำได้จะเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 2 ปี

ภายหลังรับฟังปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะรับปัญหาไปดูแลแก้ไขให้ แต่ไม่ชอบอยู่อย่างเดียวที่บอกว่า ถ้าทำได้จะเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีอีก 2 ปีนั้น ไม่จำเป็นเลย พร้อมย้ำว่า ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ ทำทุกอย่างให้กับทุกคน ทุกจังหวัด ด้วยใจบริสุทธิ์

“สำหรับเรื่องการจัดสรรงบประมาณ อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า งบประมาณมีจำกัด อะไรที่เร่งด่วนก็จะทำให้ เปรียบคนไทยเหมือนครอบครัว พร้อมจะดูแลทุกคนทุกฝ่ายอย่างดีที่สุด ช่วงนี้เป็นช่วงประชาธิปไตย อะไรที่ทำไม่ได้จะไม่พูด จะไม่หาเสียงแล้วทำให้ระบบงบประมาณเสียหาย ขอโทษหากพูดความจริง แล้วทำให้ไม่ถูกใจ แต่ทั้งหมดต้องทำเพื่อความเชื่อมั่นของประชาชนและต่างประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กำชับข้าราชการทุกระดับ ต้องทำงานให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยจะไล่ติดตามการดำเนินงานให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ทั้งยังฝาก สส. ให้ช่วยดูเรื่องที่ปิดบังซ่อนเร้นต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อช่วยกันสร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชน ย้ำคนจะรัก ยังไงก็รัก ไม่ว่าจะเป็นยังไง เหมือนที่นายกรัฐมนตรีรักประชาชนทุกคน

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี เล่าบรรยากาศนั่งรถไฟดูตลาดร่มหุบ พบชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวจำนวนมาก และพูดคุยทักทายเป็นกันเอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีพูดผ่านไปประมาณ 18 นาที เกิดไฟดับทำให้ไมโครโฟนไม่ติด นายกรัฐมนตรี จึงต้องตัดสินใจยุติการกล่าวกับประชาชน และเดินลงจากเวทีไปร่วมถ่ายรูปทักทายแทน

จากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่สามารถแก้ไขปัญหาระบบไฟได้ และนำไมโครโฟนมาให้นายกรัฐมนตรี ใช้พูดคุยกับชาวบ้านได้อีกครั้ง นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวว่า “ยิ้มไม่ค่อยออก เพราะเรื่องมันเยอะ พร้อมขออภัยประชาชนหากพูดไม่เพราะ แต่จริงใจนะ!!”