สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ต่อกันที่ข่าวปากท้องชาวบ้าน เมื่อวานคนรับประทานไข่ไก่ก็มีเฮ เพราะราคาปรับลดลงฟองละ 20 สตางค์ แต่ในภาคของผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยกลับทุกข์หนัก เพราะราคาไข่ที่ลดลงจากปริมาณไข่ไก่ล้นตลาดมาจากหลายปัจจัยซ้ำเติม
ข้อสำคัญไข่ไก่ที่ออกมาปริมาณมากเกิดจากคนวงการเดียวกัน คือ ผู้เลี้ยงไก่ไข่เจ้าใหญ่บางรายไม่ปลดแม่ไก่ตามรอบที่ กรมปศุสัตว์ ขอความร่วมมือ มีผลให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยตอนนี้พากันนับถอยหลังอาจปิดกิจการเพิ่มอีก จากก่อนหน้านี้ที่ปิดไปแล้วเกือบ 200 ฟาร์มทั่วประเทศ
ปรับลดราคาไข่ไก่ 20 สตางค์ต่อฟอง ครั้งแรกในรอบปี 2566
เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกาศปรับลดราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มครั้งแรกของปี โดยมีราคาลดลงฟองละ 20 สตางค์ หรือลดราคาจากฟองละ 3 บาท 60 สตางค์ เหลือฟองละ 3 บาท 40 สตางค์ หากซื้อยกแผงราคาก็จะลดลง แผงละ 6 บาท มีผลเมื่อวานนี้ แต่ผลปรับลดของราคาไข่ไก่ก็มีเรื่องเศร้าอีกด้าน เมื่อ นายสุเทพ สุวรรณรัตน์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ เปิดเผยกับทีมข่าวของเรา ว่าการปรับราคาลงของไข่ไก่รอบนี้ เกิดจากหลายปัจจัยที่มาซ้ำเติมผู้เลี้ยง ทั้งราคาอาหารไก่ปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่ 17-18 บาทต่อกิโลกรัม แพงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 13-14 บาทต่อกิโลกรัม, ล้งรับซื้อไข่ไก่กดราคา เนื่องจากปริมาณไข่ไก่มีออกมาจำนวนมาก, ผู้ค้าไข่ไก่ในตลาดไม่ยอมลดราคาขายไข่ไก่ ทั้งที่ราคาหน้าฟาร์มปรับลดแล้ว, ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น
ผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยอ่วม สารพัดปัจจัยรุม จ่อปิดกิจการเพิ่ม
และอีกปัจจัยสำคัญที่ไม่คิดว่าจะถูกซ้ำเติมจากคนวงการเดียวกัน คือ ผู้เลี้ยงไก่ไข่เจ้าใหญ่บางเจ้า ไม่ยอมปลดแม่ไก่ตามรอบที่ กรมปศุสัตว์ ขอความร่วมมือ เป็นเหตุให้ปริมาณไข่ไก่ล้นตลาด สุดท้ายไม่พ้นรายย่อยรับกรรม อาจมีบางเจ้าต้องปิดกิจการเพิ่มอีกจากที่ก่อนหน้าปิดไปแล้วเกือบ 200 ราย ทั่วประเทศ
นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ บอกว่า ไม่ขอให้รัฐใช้นโยบายอุดหนุนไข่ไก่ เหมือนกับพืชเกษตรชนิดอื่น แต่ฝากภาครัฐช่วยดูแลตรวจสอบทั้งการปลดแม่ไก่ตามวงรอบ, ราคาอาหารไก่ เพราะตอนนี้ต้นทุนไปที่ฟองละกว่า 3 บาท 50 สตางค์ ถึง 3 บาท 60 สตางค์ กันแล้ว แต่ราคาขายไข่ไก่อยู่ที่ 3 บาท 40 สตางค์ต่อฟอง
กรมการค้าภายใน เร่งระบายน้ำตาลทรายราคาถูก
นอกจากราคาไข่ไก่ลดแล้ว นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน แง้มมาว่า อาจพิจารณาปรับราคาสินค้าบางรายการลงอีก ให้เหมาะสมกับต้นทุนการผลิต ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าไฟฟ้า พร้อมจัด "โครงการพาณิชย์ลดราคา Grand Sale ทั่วไทย" นำน้ำตาลทรายขาวมาขายแค่กิโลกรัมละ 18 บาท ถูกกว่าตามห้างค้าส่งค้าปลีกทั่วไป ซึ่งขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 22-23 บาท, ข้าวหอมมะลิ ขนาด 5 กิโลกรัม ขายแค่ถุงละ 100 บาท, น้ำมันปาล์ม ขายที่ขวดละ 43 บาท และไข่ไก่ ถาดละ 90 บาท รวมทั้งจะขอความร่วมมือห้างค้าส่งค้าปลีกให้จัดกิจกรรมลดราคาสินค้าต่อเนื่องอีกด้วย
