อดีตครูวัย 83 ปี ให้ชาวบ้านยืมเงินคนละ 7 พันบาท ลงทุน ดอกเบี้ยไม่คิด ผ่านไป 13 ปี ยังไม่ได้คืน แจ้งความ ตร.แค่ลงบันทึกประจำวัน คดีแพ่งต้องไปฟ้องเอง

อดีตครูวัย 83 ปี ให้ชาวบ้านยืมเงินคนละ 7 พันบาท ลงทุน ดอกเบี้ยไม่คิด ผ่านไป 13 ปี ยังไม่ได้คืน แจ้งความ ตร.แค่ลงบันทึกประจำวัน คดีแพ่งต้องไปฟ้องเอง

View icon 260
วันที่ 5 ก.พ. 2566 | 15.58 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (5 ก.พ. 66) นายประจวบ ประดลชอบ อายุ 83 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.ตราด เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ กับ ร.ต.อ.ธนะพล แต้มสะระ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ่อไร่ กรณีให้ชาวบ้านยืมเงินร่วม 10 คน เพื่อนำไปลงทุนเพาะชำต้นกล้าไม้กฤษณา ที่บ้านสระใหญ่ ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ จ.ตราด แต่จนปัจจุบันชาวบ้านที่ยืมเงินไปยังไม่ยอมจ่ายเงินคืน โดย ร.ต.อ.ธนะพล ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2553 นานถึง 13 ปีแล้ว

ต่อมา นายประจวบจึงร้องมายังสื่อมวลชนให้ช่วย เพราะอยากได้เงินที่ชาวบ้านยืมไปคืน พร้อมเปิดเผยว่า เหตุที่ตนเองทิ้งเรื่องราวดังกล่าวมานานถึง 3 ปี เพราะเก็บหนังสือสัญญากู้เงินไว้และหาไม่เจอ จนเมื่อเดือนที่แล้ว ค้นเจอหนังสือสัญญาดังกล่าว จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ่อไร่ โดยกว่า 13 ปี ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมชาวบ้านได้ร่วมกันตั้งชมรมผู้เพาะพันธุ์ไม้กฤษณาที่บ้านสระใหญ่ และให้เงินชาวบ้านกู้ไปคนละ 7 พันบาท นั 10 คน ซึ่งมีชาวบ้านเพียง 3 คน ที่คืนเงิน แต่ที่เหลือไม่ยอมใช้คืน และก็ทำเงียบหายไป ตนเองไม่ได้ติดตามเพราะหาหนังสือสัญญาไม่เจอ กระทั่งหาเจอแล้ว จึงมาแจ้งความ แต่ก็ได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เฉยๆ ตำรวจบอกเป็นคดีแพ่ง ต้องไปฟ้องร้องเอาเอง จึงข้อร้องสื่อให้ช่วยในการติดตามทวงหนี้ดังกล่าวให้ด้วย

นายประจวบ บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองพอมีฐานะ จึงให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไป จึงพยายามติดตามลูกหนี้ที่ติดหนี้แล้วไม่ยอมจ่ายคืน ทั้งๆให้ยืมแบบไม่คิดดอกเบี้ยนาน 13 ปีแล้ว ยังไม่ได้คืน จึงอยากให้สื่อช่วยติดตามให้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังลูกหนี้ของนายประจวบ พบว่าไปทำงานอยู่ จ.จันทบุรี จะกลับมาบ้านก็ช่วงค่ำๆ ซึ่งจะได้ประสานงานให้ในการชดใช้เงินคืนให้กับนายประจวบต่อไป ไม่ต้องส่งเรื่องฟ้องร้องกันให้เสียเวลาทำมาหากินกันทั้งสองฝ่าย