เจาะประเด็นข่าว 7HD - ค่าฝุ่น PM2.5 พื้นที่ภาคเหนือและอีสาน ยังเกินมาตรฐานหลายพื้นที่ แม้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะส่งเครื่องบินทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญเกิดจากไฟป่าตามแนวชายแดนและการเผาเศษวัชพืชของเกษตรกร
ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานภาพรวมค่าฝุ่น PM2.5 วันนี้ พบพื้นที่ภาคเหนือ ยังเกินมาตรฐาน ค่าเฉลี่ยที่ตรวจวัดได้ 26-94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยมีจุด HOTSPOT ตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน ซึ่งเกิดป่าลุกลามเป็นวงกว้าง
เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่า ร่วมกับกรมทหารพรานที่ 36 ใช้ทางน้ำในการเดินทาง เพื่อส่งกำลังลงตามจุดต่าง ๆ ตลอดระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร แต่เนื่องจากเส้นทางดับไฟป่าเป็นเขาสูงชัน คาดว่าจะกินเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ในการทำแนวป้องกันไฟให้แล้วเสร็จได้
ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หมอกควันไฟจากการเผาเศษวัชพืชของกลุ่มเกษตรกร ส่งผลให้สภาพอากาศโดยรวมขมุกขมัวตลอดทั้งวัน แม้ทางจังหวัดฯ จะประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมืองดการเผาไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ที่ตั้งฐานปฏิบัติการในจังหวัดเชียงใหม่ จะขึ้นบินเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากหมอกควันไฟป่า โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ ดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ดอยพระบาท อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง รอยต่อระหว่างอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก ตลอดจนอำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน รอยต่ออำเภอเกาะคา และอำเภอเมืองลำปาง แต่ก็ไม่ช่วยให้คุณภาพอากาศดีขึ้น
จากการตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 เช้าวันนี้ สูงสุดอยู่ที่ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง 62 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากเดิมก่อนขึ้นบินทำฝนหลวง อยู่ที่ 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ภาคอีสาน ที่จังหวัดนครราชสีมา ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แล้ว เนื่องจากสภาพอากาศปิด และพบจุด HOTSPOT มากถึง 45 จุด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) และเจ้าหน้าที่จัดการคุณภาพน้ำ อากาศ และเสียง ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เกิดเพลิงไหม้บ่อขยะ 2 แห่ง อำเภอโนนสูง ตั้งแต่คืนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พบว่าทั้ง 2 จุด เพลิงสงบแล้ว การตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณโดยรอบ ไม่น่าห่วง แต่ที่ต้องเฝ้าระวัง คือ การเกิดไฟปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งได้แจ้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
