ถกกันสนั่น หลังคุณพ่อท่านหนึ่ง ฝากให้คิด ลูกสาวชั้น ป.1 เปิดตำราคณิตศาสตร์  ถึงกับร้องไห้ ยากเกินกว่าสมองเด็ก 7 ขวบไหม  หรือขึ้นกับเทคนิคการสอน

ถกกันสนั่น หลังคุณพ่อท่านหนึ่ง ฝากให้คิด ลูกสาวชั้น ป.1 เปิดตำราคณิตศาสตร์ ถึงกับร้องไห้ ยากเกินกว่าสมองเด็ก 7 ขวบไหม หรือขึ้นกับเทคนิคการสอน

View icon 477
วันที่ 6 ก.พ. 2566 | 11.14 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
ถกกันสนั่น หลังคุณพ่อท่านหนึ่ง ฝากให้คิด ลูกสาวชั้น ป.1   เปิดตำราคณิตศาสตร์  ถึงกับร้องไห้ แก้สมการหาตัวแปรไม่ทราบค่า ยากเกินกว่าสมองเด็ก 7 ขวบไหม หรือขึ้นกับเทคนิคการสอนของครูให้เด็กเข้าใจ


( 6 ก.พ.66 ) เรียกว่า ผู้ปกครองเข้ามาถกกันสนั่น กรณีเพจ "Drama Addict " ได้โพสต์เรื่อง วิชาคณิตศาสตร์ประเด็นน่าสนใจ คุณพ่อท่านนึงฝากมาดังนี้
จ่าครับผมขออนุญาตรบกวนจ่าช่วยเป็นกระบอกเสียงส่งต่อเรื่องเนื้อหาหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป1 ด้วยครับ คือในเล่มนี้มีการเรียนเรื่องการแก้สมการหาค่าตัวแปรไม่ทราบค่ากันแล้วครับ
ผมได้ไปคุยกับ ผอ.โรงเรียนแล้วแกก็พูดดีบอกว่าจะไปคุยในที่ประชุมจังหวัดให้ครับ
ด้วยเรื่องที่กระเป๋าเด็กหนัก รร เลยให้เด็กเอาหนังสือไว้ในโต๊ะที่ รร ลูกผมป่วยเลยต้องเอามาทำที่บ้าน ลูกผมแค่เปิดมาก็ร้องไห้แล้ว เพราะว่าเค้าทำไม่ได้ แล้วคงจะกดดันมาก มันส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจเด็กมากเลยครับ
ผมเข้าใจทาง รร และครูนะครับว่ามันเป็นเรื่องนโยบาย แต่อยากให้คนที่สร้างตำราเล่มนี้รู้ว่าเนื้อหามันซับซ้อนกว่าสมองเด็ก 7 ขวบ จากที่เราจะได้เด็กที่เก่ง เราจะกลายเป็นเด็กที่เกลียดคณิตศาสตร์แทนครับ

บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง  รวมถึงครูอาจารย์ เข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก  มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย  ที่เห็นด้วย บอกว่า วิชาคณิตศาสตร์สมัยนี้ ยากและซับซ้อนมากจริงๆ  สมัยนี้เรียนกันไวมาก ขณะที่บางส่วนมองว่า ก็แค่การบวกลบเลขธรรมดา เพียงแต่ชื่ออาจจะทำให้ดูยากซับซ้อนกว่าสมัยก่อนเท่านั้น และ การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ให้เข้าใจของเด็ก ขึ้นอยู่กับเทคนิคการสอนของครูและอาจารย์เสียมากกว่า

ความเห็นเช่น  "พอลองไปหาข้อสอบคณิตศาสตร์ของ ป.1 มาดู ก็เหมือนว่าเขาจะใช้เกณฑ์ตามตำรานี้ในการสอบวัดความรู้คณิตเด็ก ป.1 จริงๆแฮะ เท่าที่จ่าจำได้สมัยประถม กว่าจะเรียนเรื่องการหาตัวแปรไม่ทราบค่านี่ แถวๆ ป3-4 เด็กสมัยนี้เรียนไวจัง พ่อแม่พี่น้องคิดเห็นยังไงมั่งครับ
บางเนื้อหาก็ยากจริงครับ ผมเป็นครูยังรุ้สึกว่ายากเลย สงสารเด็กครับ เนื้อหาโดนอัดยัดเยียดมากไปจริงๆ ในทัศนผมนะ"

"จริง สมัยนี้มันจะยากไปไหน ยากมากกกกก สงสารเด็ก ต้องไปเรียนพิเศษ ทำการบ้านที่เยอะเหลือเกิน ไม่มีเวลาไปวิ่งเล่นตอนเย็นเหมือนแต่ก่อน ภูมิศาสตร์ก็เรียนของต่างชาติ ของชาติไทยไม่มีเรียน เด็กไม่รู้แม่น้ำ ภูเขา หรือจังหวัดของไทยเราเอง"

"อยู่ที่โรงเรียนค่ะ ว่าสอนได้ดีแค่ไหน จากโจทย์ถ้าเป็นโรงเรียนลูกเรา คือการเรียนการสอนปกตินะ เพราะเด็กสมัยนี้บวก ลบเลขง่ายๆตั้งแต่อนุบาล ถ้าเด็กห้องเรียนพิเศษยากกว่านี้ค่ะ เริ่มเรียนแบบนี้ตั้งแต่อนุบาล3 แล้ว แต่มันจะเป็นโจทย์ง่ายๆพอทำซ้ำเด็กจะทำได้เอง เด็ก 7 ขวบเองก็ควรจะนับเลขไปข้างหน้าหรือย้อนกลับให้ได้นะคะคุณพ่อ"

"โจทย์ระดับนี้มันไม่ยากสำหรับ ป1 หรอกครับ เพราะมันคือการบวกลบเลขธรรมดา แต่ปัญหาคือถ้าคนสอนไม่เข้าใจวิธีที่จะสอน พยายามทำทุกอย่างเป็นสมการตัวแปร มันจะยากเกินไปสำหรับเด็ก ครูประถมส่วนมากนี่สอนไม่ตรงเอกกันเยอะด้วยครับ บางทีก็ไม่ได้เข้าใจว่าทำไมต้องแบบนี้ แต่สอนตามหนังสือเรียนที่กระทรวงพิมพ์มา"

"โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว เด็กจะต้องพัฒนาตัวเองให้เหมาะสมกับโลกด้วย อย่างโจทย์มันก็คือการแก้สมการ 2 หลักไม่ได้ซับซ้อน เด็กเข้าใจได้ แต่ต้องอธิบายให้น้องๆเข้าใจ เอาจริงเด็ก 7 ขวบบางคนก็เขียนโปรแกรมได้แล้ว อันนี้คือเล็กน้อยมากๆครับ"

"จากประสบการณ์ที่เป็นครูสอนพิเศษ หลักสูตรสิงคโปร์นี่เหมือนกัน บอกเลยว่า เลขสิงคโปร์ยากกว่า และเรียนเร็วกว่าเด็กไทยอีก อย่างเช่น อ.3 บางที่เรียนคูณหารแล้วนะ แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ'วิธีการสอน' Singapore Math จะมาพร้อมการอธิบายให้เด็กเห็นภาพได้ง่ายๆ เป็นขั้นเป็นตอน ทำให้เด็กเข้าใจได้ อย่างคำถามลักษณะนี้ที่ไทยอาจมองว่า เฮ้ย นี่มันกึ่งๆสมการแล้ว เรียนตอนม.ต้นนั่น ทำไมเรียนแล้ว บอกเลยว่าสิงคโปร์ก็เรียนแล้ว แต่เค้าอธิบายด้วย bar model เหมือนใน VDO นี้แหละค่ะ ดังนั้นปัญหา ไม่ได้อยู่ที่ คำถามยากหรือง่าย แต่อยู่ที่ 'วิธีการอธิบายให้เด็กเข้าใจได้ง่ายๆ' ซึ่งหลักสูตรไทย ยังด้อยมากๆในเรื่องนี้"