ไม่รอด! แก๊งโจ๋เถื่อนถูกรวบ หลังยกพวกวิวาทเดือดจนเสียชีวิต จ.สมุทรปราการ

View icon 93
วันที่ 7 ก.พ. 2566 | 07.03 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ตามกันต่อกับเหตุระทึก กลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกัน ที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 2 คน ล่าสุด ตำรวจตามจับตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้แล้ว หนึ่งในผู้ก่อเหตุออกมาอ้างทำไปเพราะถูกอีกฝ่ายยั่วโมโห ตะโกนให้ของลับก่อน

นี่เป็นภาพเหตุการณ์นาทีระทึกที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกไว้ได้ จากภาพจะเห็นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ไล่ตะลุมบอนกันมา ก่อนจะมีการใช้ทั้งอาวุธปืน อาวุธมีด และระเบิดเข้ารุมทำร้ายกัน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริเวณข้างสวนสุขภาพ บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ และเหตุดังกล่าวทำให้มีชายอายุ 23 ปี ชาวกัมพูชา ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ลำตัว 1 นัด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ความคืบหน้าล่าสุด ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วันเดียวกันนั้นเอง ฝ่ายสืบสวน สภ.บางเสาธง และฝ่ายสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้กระจายกำลังติดตามเข้าจับกุมกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 ฝ่าย ได้ 16 คน ที่บ้านพักย่านบางเสาธง จากการตรวจสอบพบว่า ยังมีบางคนเป็นเยาวชนอยู่ โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุมีอายุระหว่าง 15-21 ปี และเป็นนักเรียนช่างของสถาบันแห่งหนึ่ง หลังควบคุมตัวตำรวจจึงนำตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาสอบสวนต่อที่โรงพัก

ชายอายุ 18 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนเองกับเพื่อนพากันขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งรุ่นน้อง ขณะขี่รถข้ามสะพานบริเวณที่เกิดเหตุ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนให้ของลับมา จึงพากันขี่รถวนกลับมาจอดบนสะพานเพื่อหาคนที่ตะโกนด่า แต่กลับถูกอีกฝ่ายใช้พลุไฟจุดยิงใส่ ก่อนจะปาระเบิดปิงปองตามมา จากนั้นจึงเกิดการปะทะกันขึ้น ตนเองเห็นว่าสู้ไม่ไหว จึงวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พันตำรวจโท ชินทัตต์ วิเชียรเจริญ สารวัตรสืบสวน สภ.บางเสาธง เปิดเผยว่า คดีนี้แบ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็น 2 ฝ่าย ตำรวจตามจับได้แล้ว 16 คน พบอาวุธปืน 4 กระบอก โดยดัดแปลงมาจากสิ่งเทียมอาวุธปืน (ปืนแบลงค์กัน) เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาฝ่ายที่ยิงปืนว่า ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ครอบครองอาวุธปืน พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ส่วนฝ่ายของผู้เสียชีวิต ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ และร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม