นักท่องเที่ยวชาวจีนผิดหวัง ตำรวจไม่ดำเนินคดีคนผิดแต่ต้น

View icon 59
วันที่ 7 ก.พ. 2566 | 06.48 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - แม้ว่าเมื่อวานนี้ ตำรวจจะเร่งรีบออกมาดำเนินคดีกับพนักงานบริษัททัวร์ ที่ทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวจีน และเตรียมนำฟ้องศาลวันนี้ แต่ว่าในมุมของนักท่องเที่ยวผู้เสียหายนั้น ยังมีความรู้สึกผิดหวังที่ตำรวจไม่ดำเนินคดีคนที่ทำร้ายเขาตั้งแต่ต้น แต่กลับพยายามให้คดีนี้จบ ๆ กันไป แบบเลิกแล้วต่อกัน

นี่เป็นข้อความการสนทนาของคุณทิน "เช้านี้ที่หมอชิต" ที่มีโอกาสสอบถามถึงเหตุการณ์โดยละเอียดกับนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ลงคลิปถูกทำร้ายร่างกายไว้ใน Tiktok นักท่องเที่ยวที่ลงคลิปเรื่องราวนี้ไว้เป็นผู้หญิง ซึ่งเมื่อได้รู้รายละเอียดของวันเกิดเหตุที่มากกว่านี้ ยิ่งทำให้เห็นว่า สิ่งที่นักท่องเที่ยวรายนี้ต้องเผชิญนั้น เลวร้ายมากกว่าที่ได้เห็นในคลิปอีก เพราะในคลิปจะเป็นเหตุการณ์ถูกทำร้ายแค่ส่วนหนึ่ง แต่เหตุการณ์เต็ม ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนั้น มันสร้างความน่ากลัวแก่นักท่องเที่ยวครอบครัวนี้อย่างมาก

จากการพูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวจีน พบว่าจริง ๆ คลิปภาพที่ผู้หญิงคนนี้ เดินมาใช้เท้าขวาถีบคนที่ถ่ายคลิป แล้วใช้มีดขนาดเล็กฟันแขนคนที่ถ่ายคลิป มันเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องช่วงที่ 2 จากเหตุการณ์ที่ 1 ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าเหตุการณ์ช่วงที่ 1 นั้นเป็นอย่างไร อยากให้ติดตามสิ่งที่ผมจะอธิบายให้จบ

ก่อนอื่นอยากจะลำดับเหตุการณ์ให้เห็นภาพ ตามที่คุณทิน ได้คุยกับนักท่องเที่ยวจีนผู้โชคร้าย ซึ่งครอบครัวนี้มีพ่อ แม่ และลูกสาวอีก 2 คน

พวกเขาเดินทางเข้าไทยที่เชียงใหม่ เมื่อ 24 มกราคม จากนั้นบินต่อมาเที่ยวกรุงเทพฯ 26 มกราคม กระทั่ง 29 มกราคม ก็บินจากกรุงเทพฯ มาเที่ยวภูเก็ต พร้อมกับซื้อแพ็กเกจเที่ยวเกาะสิมิลัน ซึ่งตั้งใจจะเที่ยววันที่ 30 แต่เต็ม จึงได้วันที่ 31 มกราคม

วันที่บริษัททัวร์ต้องมารับครอบครัวนี้ที่โรงแรมเวลา 05.50 น. กลับไม่ไปรับ โทรศัพท์ไปไม่รับสาย มารับสายตอนโทรครั้งที่ 3 คุย 20 วินาที ก็อ้างว่าคนขับรถไปถึงโรงแรมแล้ว โทรหาลูกค้า แต่ไม่มีใครรับสาย ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนยืนยันว่า ไม่มีใครโทรหาพวกเขาเลย จากนั้นเขาก็โทรหาบริษัททัวร์อีก 4 ครั้ง สายติด แต่ไม่รับสาย ตอนนั้นคิดว่าถูกโกงแน่ จึงไปแจ้งความกับตำรวจ

ตำรวจมาถึง ก็เชิญทั้งสองฝ่ายไปสถานีตำรวจ เพื่อเจรจากัน โดยทางนักท่องเที่ยวจีนนั้น ผู้เป็นสามีเป็นคนไปเจรจาขอคืนเงิน แต่บริษัททัวร์จะคืนให้แค่ 3,000 บาท ตกลงกันไม่ได้ ตำรวจจึงให้แยกย้ายกันกลับไปก่อน

เมื่อสามีกลับไปถึงโรงแรม ผู้เป็นภรรยารู้สึกว่าไม่ยุติธรรม จึงไปที่บริษัททัวร์ขอเงินคืนทั้งหมด แต่บริษัททัวร์ไม่คืน เธอจึงนั่งอยู่ที่บริษัททัวร์ แล้วเรียกตำรวจมาช่วยเจรจา ตำรวจมาถึงเป็นคนละนายกับคนก่อน ก็บอกว่าดึกแล้ว ให้กลับไปพักกันก่อน ตอนเช้าค่อยว่ากันใหม่

พอเช้าวันใหม่ 1 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้เป็นสามีก็ไปที่บริษัททัวร์เพื่อไปขอเงินคืน แต่ตำรวจไม่ไปตามนัด ซึ่งทางร้านยืนยันว่าไม่ให้ และพนักงานหญิงที่อยู่ในร้าน ก็พูดด้วยอาการโมโหว่าให้แค่ 3,000 บาท พร้อมขู่ว่าถ้าไม่เอากูจะฆ่ามึง พูดเสร็จก็ตบหัวนักท่องเที่ยวจีนอย่างแรง ด้วยความตกใจ ชายจีนวิ่งออกมานอกร้าน พร้อมกับหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง มาถ่ายคลิปไว้ ก่อนที่หญิงพนักงานบริษัททัวร์จะตามมาถีบชายนักท่องเที่ยวจีน กลัวจะเข้ามาแย่งโทรศัพท์ จึงยกมือซ้ายป้องกัน โดยไม่รู้ว่าหญิงคนนั้นจะมีมีด และใช้มีดพกขนาดเล็กฟันที่แขน ซึ่งในคลิปจะเห็นแค่ภาพช็อตนี้

แต่พอตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าการเจรจาให้บริษัททัวร์คืนเงินให้นักท่องเที่ยวจีน 5,000 บาท แลกกับการไม่ดำเนินคดีกับบริษัททัวร์ เลิกแล้วต่อกัน ซึ่งตรงนี้แหละที่นักท่องเที่ยวจีนรับไม่ได้ ถูกโกงเงิน ถูกทำร้ายร่างกาย แต่คนก่อเหตุไม่ถูกดำเนินคดี พวกเขาเดินทางจากภูเก็ตกลับเชียงใหม่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พัก 1 คืน ก่อนเดินทางจากเชียงใหม่กลับจีน วันที่ 2 กุมภาพันธ์

ในการพูดคุยกับคุณทิน นักท่องเที่ยวจีนผู้เป็นภรรยา ตั้งคำถามว่า "คนที่ใช้มีดทำร้ายร่างกายเรา ไม่ต้องโดนควบคุมตัวเลยหรือ"

อีกข้อความเธอถามว่า "พวกเราไม่เข้าใจว่าประเทศไทย จัดการกับคดีแบบนี้อย่างไร และกฎหมายเป็นอย่างไร นักท่องเที่ยวธรรมดา ๆ ถูกทำร้าย และยังถูกโกง ตำรวจไม่ต้องสนเลย แล้วก็ปล่อยตัวคนร้ายไป"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง