พบเด็กหญิงแรกเกิด ที่คลอดออกมาใต้ซากอาคารที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวในซีเรีย และรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในตุรกีและซีเรีย พุ่งขึ้นเกือบ 8,000 คนแล้ว นี่เป็นภาพขณะชาวบ้านในเมืองจินเดริส (Jinderis) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี ติดกับพรมแดนซีเรีย ช่วยเหลือเด็กหญิงแรกเกิด ออกมาจากใต้ซากอาคารที่พังถล่มลงมา จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.8 เมื่อเช้ามืดวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวราว 10 ชั่วโมง ชาวบ้านได้ยินเสียงเด็กร้อง จึงช่วยกันค้นหาก่อนพบเด็กหญิงแรกเกิดติดอยู่ใต้ซากอาคาร ซึ่งสายสะดือของเด็กยังติดอยู่กับแม่ ขณะที่ แม่ของเด็กเสียชีวิตแล้ว โดยเธอเป็นสมาชิกคนเดียวในครอบครัวที่รอดชีวิต ซึ่งจากการตรวจร่างกายทารกหญิงดังกล่าวเบื้องต้น พบมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย
ขณะเดียวกันที่ เมื่อวานนี้ ที่ท่าเรือในเมืองอิสเคนเดอรุน (Iskenderun) ของตุรกี ซึ่งเป็น 1 ในเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นผลจากแรงสั่นสะเทือนที่ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ตกลงมาทับกัน และเกิดเพลิงไหม้ ส่งผลให้มีควันดำลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว
ส่วนความคืบหน้าของปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตในตุรกี และซีเรีย ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัดของฤดูหนาว ประกอบกับมีหิมะตกลงมาในบางพื้นที่ รวมทั้ง ถนนจำนวนมากพังเสียหาย และการขาดแคลนอุปกรณ์กู้ภัย, รวมทั้ง น้ำมัน และไฟฟ้า ทำให้ปฏิบัติการช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่ประธานาธิบดีตุรกีประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ในพื้นที่ 10 จังหวัด โดยคาดว่า มีประชาชนได้รับผลกระทบราว 13.5 ล้านคน ขณะเดียวกัน ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากนานาชาติ ได้เร่งส่งความช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วย
ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นกว่า 7,800 คนแล้ว โดยเป็นผู้เสียชีวิตในตุรกี 5,894 คน บาดเจ็บอีกมากกว่า 34,000 คน และยอดผู้เสียชีวิตในซีเรียอยู่ที่อย่างน้อย 1,932 คน บาดเจ็บอีกเกือบ 4,000 คน ขณะที่ สหประชาชาติคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก