เช้าข่าว 7 สี - ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ เป็นต้นไป ผู้ที่ไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งจราจร ไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้ หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนาม MOU ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เปิดระบบแบบ Real time เชื่อมข้อมูลถึงกัน
พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกันลงนาม MOU ก่อนแถลงว่า ค่าปรับที่ต้องชำระไม่มีผลย้อนหลัง คือจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป คือเมื่อกระทำความผิดกฎหมายจราจร ได้รับใบสั่งก็ไปชำระตามกำหนด แต่หากไม่ไปชำระ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบก แบบ Real time พอผู้ขับขี่นำรถไปต่อทะเบียน ก็จะไม่สามารถต่อได้ จะได้รับเพียงใบแสดงป้ายภาษีชั่วคราว ที่ให้ใช้งานได้เพียง 30 วัน เพื่อให้ผู้ขับขี่ไปชำระค่าปรับให้เรียบร้อยตามช่องทางต่าง ๆ ที่กำหนด เมื่อชำระแล้วก็กลับไปชำระภาษีและขอรับป้ายภาษีตัวจริง
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก อธิบายเสริมว่า เมื่อผู้ขับขี่รถกระทำความผิดกฎหมายจราจร ได้รับใบสั่ง พอไม่ไปจ่ายเงินค่าปรับ ตำรวจก็จะส่งหนังสือแจ้งเตือนให้ไปชำระ ซึ่งถ้าชำระก็จบ แต่ถ้าไม่ชำระ ก็จะเปลี่ยนสถานะกลายเป็นว่าค้างชำระใบสั่งจราจร พอไปต่อภาษีก็จะให้ไปชำระค่าปรับก่อน
ส่วนมาตรการตัดคะแนนใบขับขี่ที่บังคับใช้ไปตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ก็ยังดำเนินการควบคู่กันไป ซึ่งขณะนี้พบว่ามีผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนไปแล้วกว่า 15,456 ราย ด้วยกัน
