สั่งสอบรถตำรวจท่องเที่ยวนำขบวนสามี ดิว อริสรา แล้ว แจงเป็นภาพเก่า ปี 60

สั่งสอบรถตำรวจท่องเที่ยวนำขบวนสามี ดิว อริสรา แล้ว แจงเป็นภาพเก่า ปี 60

View icon 198
วันที่ 9 ก.พ. 2566 | 16.21 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยอมรับ เป็นตำรวจท่องเที่ยวจริง ที่ไปขับรถนำขบวนให้เซบาสเตียน สามีของ “ดิว อริสรา"

วันนี้ (9 ก.พ.66)  พลตำรวจตรีอภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระบุว่า หลังจากที่ปรากฏคลิป รถตำรวจท่องเที่ยว ขับนำขบวนรถของสามีนักแสดงสาว “ดิว อริสร”  ทางผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการไปยังผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวภาค 2 ที่ดูแลภาคเหนือ ภาคอีสาน ให้ตรวจสอบทันที ผลตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2560 และรถยนต์ที่นำขบวน เป็นรถยนต์ตำรวจท่องเที่ยวจริง อยู่ในความควบคุมดูแล และรับผิดชอบ ของสถานีตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ผู้ที่ขับรถ คือ ร้อยตำรวจตรีนายหนึ่ง อายุ 55 ปี ขณะนั้น ยศดาบตำรวจ ยอมรับแล้วว่า ขับรถจริง และ ขณะนี้กำลังถูกสอบถามจากต้นสังกัด

เบื้องต้นบอกว่า จำไม่ได้ว่า นายตำรวจที่นั่งไปด้วยในวันนั้นเป็นใคร เพราะปกติรถตำรวจท่องเที่ยวจะไปกัน 2 คน  โดยยืนยันว่า ในวันดังกล่าวได้รับการประสานงานจากบุคคลคนหนึ่ง แต่จำไม่ได้ว่าเป็นภาคธุรกิจในพื้นที่ หรือคนในท้องถิ่นหรือไม่ แจ้งว่าให้ไปรับคณะทูตที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง ทำให้เข้าใจว่า คนที่ไปรับนั้นเป็นคณะทูต ซึ่งปกติแล้วหากมีคณะทูตมาจากต่างประเทศก็สามารถไปอำนวยความสะดวกได้ แต่พอไปรับจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าเป็นทูตจริงหรือไม่ จนมาเป็นข่าวดังกล่าว จึงทราบว่าเป็นสามีของนักแสดงสาว

จากเหตุการณ์ดังกล่าว รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระบุว่า เบื้องต้นพบเป็นการกระทำ ที่ทำให้เกิดการเสื่อมเสีย เพราะไม่ใช่เหตุอันควร ที่จะเอารถตำรวจไปอำนวยความสะดวกให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ส่วนประเด็นที่นักแสดงสาว ดิว อริสรา ระบุว่า รถตำรวจท่องเที่ยวที่มานำขบวน เป็นโพรโมชั่นจากทางโรงแรมที่จัดให้แขก VVIP จะต้องตรวจสิบก่อน เพราะ ตำรวจท่องเที่ยวทำงานในพื้นที่ ก็จะมีความคุ้นเคยกับภาคธุรกิจต่างๆ

ส่วนปลายทางของการนำขบวนว่า เป็นบ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ เรื่องนี้ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนเช่นกัน  คาดว่า จะใช้เวลาตรวจสอบไม่กี่วัน ก็สามารถสรุปผลได้ ว่าจะต้องดำเนินการลงโทษอย่างไร เนื่องจากคลิปคอนข้างชัดเจน แต่ต้องรอฟังคำชี้แจง ว่าสมเหตุผลหรือไม่ และ พิจารณาย้ายออกจากพื้นที่ ระหว่างรอผล