รัฐบาลส่งทีมกู้ภัยร่วมค้นหาผู้ประสบภัย เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ตุรกี

View icon 47
วันที่ 10 ก.พ. 2566 | 04.15 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - ทีมแพทย์ ทีมกู้ภัยและค้นหา ซึ่งรัฐบาลไทยส่งเข้าร่วมภารกิจค้นหาผู้ประสบภัย ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่สาธารณรัฐตุรกี ได้เดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา

รัฐบาลไทยเปิดปฏิบัติการ "Thailand for Turkiye" ส่งทีมค้นหา ทีมกู้ภัย USAR Thailand จำนวน 42 นาย สุนัขกู้ภัย 2 ตัว พร้อมอุปกรณ์ค้นหา ยาและเวชภัณฑ์ เข้าร่วมสนับสนุนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกี ซึ่งเป็นทีมของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ทีมสุนัขค้นหา K9 ทีมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทีมกู้ภัยจากบริษัทเอกชน โรงพยาบาลเลิศสิน และโรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งแต่ละทีม มีศักยภาพในการปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง

โดยเมื่อช่วง 21.00 น.ที่ผ่านมา พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิชย์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และคณะ ได้เดินทางไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อร่วมส่งทีมค้นหาและกู้ภัย ซึ่งมีกำหนดออกเดินทางไปยังสาธารณรัฐตุรกี โดยสายการบิน Turkish Airline เที่ยวบิน TK69 เมื่อเวลา 23.30 น. ที่ผ่านมา

ด้านกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ประสานครอบครัวของหญิง อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกี ให้ทำเอกสารมอบอำนาจ ที่สำนักงานหนังสือจังหวัดนครราชสีมา เมื่อได้เอกสารแล้ว กรมการกงสุล จะส่งไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา เพื่อออกหนังสือมรณบัตร ส่วนศพผู้เสียชีวิต หากนำกลับมาที่ประเทศไทย อาจมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าการนำอัฐิกลับมา

สำหรับขั้นตอนให้ความช่วยคนไทยที่ประสบภัย กระทรวงการต่างประเทศ เปิดสายด่วนทั้งในตุรกีและซีเรีย รวมถึงประสานขอความร่วมมือทีมกู้ภัยในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อช่วยเหลือหากพบคนไทยในพื้นที่ประสบเหตุ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตถือพาสปอร์ตนักท่องเที่ยว ไม่ได้เข้าระบบจัดหางานของกระทรวงแรงงาน จึงไม่สามารถรับเงินชดเชยตามระเบียบได้ เบื้องต้นสำนักงานประกันสังคมจังหวัดชัยภูมิ ได้มอบเงินสะสมชราภาพ ขณะทำงานอยู่ประเทศไทย จำนวน 15,017 บาท ให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ด้านแม่ของผู้เสียชีวิตร่ำไห้ วิงวอนให้ภาครัฐ ช่วยเหลือในการนำศพของลูกสาวกลับมาประกอบพิธีที่บ้านเกิด เพราะครอบครัวฐานะยากจน ที่ผ่านมาลูกสาวเป็นเสาหลัก หาเงินจุนเจือทุกคนในครอบครัว