โหดเหี้ยม! ตำรวจล่าคนร้ายฆ่าทุบหัวสาวใหญ่กะโหลกแตก หน้าเละ หมกศพห้องเก็บของใต้ถุนบ้าน พบกระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์ของผู้ตายหายไป
วันนี้ (10 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ พ.ต.ท.วินัย ลายละเอียดสว.(สอบสวน) สภ.ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งพบศพคนถูกฆ่าตายภายในบ้านพัก ต.อ่างทอง อ. ทับสะแก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณฐพงศ์ มุกดาหาญ ผกก.สภ.ทับสะแก พ.ต.ท.กำเหนิด ประสพผล รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ทับสะแก พ.ต.ต.วิโรจน์ ไทรโยควิจิตร สว.สส.สภ.ทับสะแก ร.ต.อ.สมรักษ์ จรงค์หนู รอง สว.สส.สภ.ทับสะแก พร้อมชุดสืบสวน สภ.ทับสะแก ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ แพทย์เวร รพ.ทับสะแก และมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานอำเภอทับสะแก ร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ยกพื้นสูงปลูกอยู่ในสวนมะพร้าว ข้างๆ บ้านปลูกต้นไม้ล้อมรอบ บริเวณด้านหลังบ้านพบชาวบ้านยืนมุงดูจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ น.ส.บุญเรือน อายุ 49 ปี เจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุ สวมชุดทำงาน สวมรองเท้าบูท และที่มือยังสวมถุงมืออยู่ นอนตะแคงคว่ำหน้าถูกยัดอยู่ในห้องเก็บของใต้ถุนบ้าน บนตัวผู้ตายยังพบจอบ คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิตวางอยู่บนศพ มีประตูไม้ปิด ใกล้ๆ กันมีถังน้ำอยู่หลายถัง แพทย์เวรตรวจสอบศพเบื้องต้น พบว่าบริเวณกกหูซ้ายถูกของแข็งฟาดจนกะโหลกศีรษะแตก และคอด้านหลังถูกฟาดจนยุบใบหน้าเละไม่มีเค้าโครงร่างเดิม ช่วงบริเวณแก้มซ้ายเป็นแผลกรามหัก ก่อนให้กู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตส่งพิสูจน์ที่นิติเวชฯ และนำอุปกรณ์ต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายใช้ไปตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง โดยคาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12-24 ชม.
จากการสอบถาม พี่ชายผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายเป็นน้องสาวคนสุดท้องของตนในจำนวนพี่น้อง 9 คน ปกติบ้านหลังดังกล่าวผู้ตายจะอยู่บ้านทำสวน เลี้ยงวัวประมาณ 10 ตัว แต่ช่วงหลังพบว่ามีชายมาติดพันและไปๆ มาๆ อยู่ประจำ ส่วนทรัพย์สินของน้องสาวที่หายไปคือ กระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์ของผู้ตายหายไปไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนพบศพช่วงเช้าตนได้โทรศัพท์หาน้องสาว แต่ไม่สามารถติดต่อได้และไม่เห็นนำวัวออกมากินหญ้า จนมาช่วงบ่ายตนเองและญาติๆออกตามหาข้างๆ บ้าน จนมาพบถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดเอาศพมายัดในห้องเก็บของใต้ถุนบ้าน ซึ่งปกติบ้านหลังดังกล่าวจะไม่มีใครเข้าออก
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บพยานหลักฐานต่างๆ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
