เวลา 17.25 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเมรุ วัดมกุฎกษัตริยาราม ในการพระราชทานเพลิงศพ หม่อมราชวงศ์สนองศรี สวัสดิวัตน์ ซึ่งถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 สิริอายุ 100 ปี
หม่อมราชวงศ์สนองศรี เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2464 เป็นธิดาในหม่อมเจ้าเฉลิมศรีสวัสดิวัตน์ สวัสดิวัตน์ กับ หม่อมเจริญ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา และเป็นพระนัดดาคนแรกในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัตนวิศิษฎ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4 องค์ต้นราชสกุลสวัสดิวัตน์ มีน้องชาย 2 คน คือ หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ศิลปินแห่งชาติ และหม่อมราชวงศ์เพิ่มศรี สวัสดิวัตน์ เมื่อปฐมวัย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระราชทานนามและการศึกษาที่โรงเรียนราชินี และเข้าศึกษาต่อ ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จบปริญญาตรี เภสัชศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ต่อมาได้รับทุนของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ภายใต้แผนการโคลัมโบ เพื่อเข้าศึกษาฝึกอบรมด้านเภสัชกรรม ที่ University College Hospital กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ปี 2490 ได้เข้ารับราชการในแผนกเภสัชกรรม คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแผนกเภสัชกรรม และเป็นอาจารย์สอนวิชาเภสัชวิทยาแก่นักศึกษาแพทย์
หม่อมราชวงศ์สนองศรี มีส่วนสำคัญในการพัฒนางานเภสัชกรรมของศิริราชพยาบาล ให้เป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์และการสาธารณสุข ทั้งภายในและนอกประเทศ ก่อนเกษียณอายุราชการได้ดำรงตำแหน่งสูงสุด เป็นข้าราชการชั้นพิเศษระดับ 9 เป็นผู้มีอายุยืนยาวถึง 5 แผ่นดิน เคยเข้าร่วมพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ อาทิ เดินในริ้วขบวนพระราชวงศ์ และราชนิกุลฝ่ายใน ในงานพระเมรุมาศ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, งานพระเมรุมาศสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 งานสุดท้ายในชีวิต คือ เป็นกรรมการอำนวยการใหญ่เสนอนามหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นบุคคลสำคัญของโลก ต่อองค์การ UNESCO ในปี 2563