ถกไม่เถียง : นริน บ้านกกกอก ร้องสอบตำรวจ ตกเป็นแพะคดีอนาจารเด็ก ติดคุกฟรี 1 ปี 3 เดือน!

View icon 205
วันที่ 15 ก.พ. 2566 | 16.21 น.
ถกไม่เถียง
แชร์
ถกไม่เถียง - ทนายรัชพล ศิริสาคร พา นายนริน เชื้อคมตา และภริยา ชาวบ้านบ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหาร ยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้สอบวินัยตำรวจ 2 นาย ยศร้อยตำรวจเอก สังกัดงานยาเสพติด และ ยศพันตำรวจ อีก 1 นาย ที่ทำคดีอนาจารเด็ก 5 ขวบ ที่บ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหาร จนมีหมายจับ นายนริน เชื้อคมตา เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2563

ทนายรัชพล เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวทีมทนายความพบความผิดปกติในการดำเนินคดีของตำรวจทั้ง 2 นาย เริ่มตั้งแต่การไปสอบปากคำผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 5 ขวบ โดยไม่มีสหวิชาชีพที่โรงพยาบาลนานกว่า 6 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีการนำภาพของผู้ต้องสงสัยจำนวน 10 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีรูปของ นายนริน รวมอยู่ด้วยให้ชี้ภาพ ซึ่งมองว่าอาจเป็นการชักจูงหรือชี้นำพยานและผู้เสียหาย และในวันเดียวกันยังให้ผู้เสียหายและครอบครัวไปแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับ นายนริน โดยไม่มีการสอบปากคำหรือรวบรวมพยานหลักฐานใด ๆ ก่อน ซึ่งบอกว่าเป็นการทำผิดขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน จนทำให้ นายนริน ต้องถูกนำตัวไปฝากขังและถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำระหว่างการพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นถึงชั้นฎีกา นานถึง 462 วัน หรือ 1 ปี 3 เดือน 5 วัน

ซึ่งคดีนี้ในศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุก และล่าสุดเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด ซึ่งในชั้นการสืบพยานในชั้นศาล ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวเป็นไปโดยมิชอบ เนื่องจากมีการลัดขั้นตอนวิธีพิจารณาความอาญา อีกทั้งพบว่าผู้เสียหายให้การเท็จในชั้นศาล

ซึ่งคดีดังกล่าวทำให้ นายนริน ได้รับความเดือดร้อนจากการติดคุก และครอบครัวต้องถูกตราหน้าว่าเป็นภรรยาของผู้ต้องหาในคดีอนาจารเด็ก ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ต้องหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว จึงอยากเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจทั้ง 2 นายที่ทำคดี รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว โดยหลังจากนี้จะมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท และจะเอาผิดตำรวจทั้ง 2 นาย ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157

ด้าน นายนริน ยืนยันว่า คดีดังกล่าวตนเองไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหาย โดยมีพยานหลักฐานสำคัญ คือ พยานที่ทำงานด้วยกันในวันดังกล่าว ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาตนเองได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะต้องถูกจำคุกอยู่ภายในเรือนจำนานมากกว่า 1 ปี ครอบครัวก็ได้รับผลกระทบ และถูกครหาว่าเป็นผู้ต้องหาในคดีทางเพศ 

ขณะที่ นางชนาภา ภรรยาของนายนริน เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากสามีติดคุกต้องดูแลครอบครัวเพียงคนเดียวอย่างยากลำบาก ซ้ำยังถูกชาวบ้านบางส่วนครหาว่าสามีเป็นผู้ต้องหาคดีอนาจารเด็ก และลูกก็ถูกเพื่อนล้อจนลูกต้องมาร้องไห้บอกเล่าให้ฟังหลายครั้ง ซึ่งตนเองก็รู้สึกสะเทือนใจมาก จึงอยากให้ตำรวจที่ทำคดีดังกล่าวออกมารับผิดชอบกับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น