ตรวจสอบระบบอัยการ อำนาจเงิน VS ความยุติธรรม

View icon 37
วันที่ 16 ก.พ. 2566 | 07.12 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ไม่เพียงหน่วยงานต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น ตอนนี้ยังเลยไปถึงกลางน้ำอย่างฝ่ายอัยการแล้ว เมื่อ คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งข้อสังเกตคดีใหญ่ คดีดัง คนมีเงินหลุดคดี เพราะอัยการบางท่านหรือไม่ เกิดคำถามว่าวงการนี้ยังเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้หรือไม่ วันนี้เรามีข้อมูลทั้งสองด้าน เริ่มจากไปฟังคุณชูวิทย์ในเรื่องนี้

ตามที่คุณชูวิทย์ ออกมาฟาด ทั้งให้สัมภาษณ์ และสำทับด้วยการโพสต์ Facebook กับการไปขอพบ "อัยการสูงสุด" เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนพฤติการณ์ของอัยการบางคน ที่มีคำสั่งไม่ฟ้องภรรยา และลูกของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของวิคตอเรียซีเครท ในคดีค้ามนุษย์

เรียกว่า คุณชูวิทย์ ถึงขั้นใช้คำว่า ต้อง "ควานหาความยุติธรรม" กันเลย จึงเกิดคำถามว่า ตกลงหากประชาชนเดือดร้อนจริง ๆ ระบบนี้พึ่งได้หรือไม่ ไปฟังเสียงรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงพร้อม ๆ กัน

เป็นคำยืนยันของ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ว่ามีระบบรับเรื่องร้องทุกข์ทุกเรื่อง และระบบอัยการมีการตรวจสอบกันเอง แต่ภาคปฏิบัติ หากเราดูเฉพาะคดีใหญ่ ๆ อย่างคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่มี นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ผู้เซ็นคำสั่งไม่ฟ้อง กว่าจะจัดการกับคนที่สังคมครหาได้ ก็ใช้เวลานาน กระทั่งทานกระแสสังคมไม่ไหว

นายเนตร ถูกตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2563 และก็กินเวลาสอบกันข้ามปี แต่สุดท้าย 6 กันยายน 2564 ผลสอบออกมาบอกว่า นายเนตร แค่บกพร่องต่อหน้าที่ ผิดวินัยไม่ร้ายแรง จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ทำให้วันที่ 26 เดือนเดียวกัน มีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตรอีกครั้ง ก่อนจะจบลงด้วยการให้ปลดนายเนตร ออกจากราชการ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ปีที่แล้ว เพราะผิดวินัยร้ายแรง แต่ก็ยังติ่งไว้ว่า ไม่ได้ทุจริต

นี่เป็นอีก 1 คดีฉาว ที่เชื่อมโยงกระบวนการยุติธรรมตั้งต้นให้บิดเบี้ยวไป เหมือนกับที่ คุณชูวิทย์ ออกมาลากไส้เจ้าหน้าที่รับส่วย ทั้งตำรวจ ดีเอสไอ ล่าสุดลามไปถึงอัยการ ซึ่งทีมข่าวของเราได้รับคำยืนยันจากรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าพร้อมที่จะสะสางปัญหา ขจัดคนไม่ดีออกจากหน่วยงาน พร้อมกับฝากมาว่า ผู้เดือดร้อนทางคดี หากต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อได้ทั้งสำนักงานอัยการฯทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ที่ขึ้นอยู่หน้าจอของเราตอนนี้ด้วย