สนามข่าว 7 สี - ยังคงหาสาเหตุไม่ได้ เมื่อจู่ ๆ เด็กนักเรียนในจังหวัดชัยภูมิเกิดอาการท้องร่วงต่อเนื่อง กว่า 300 คน แล้ว จะบอกว่าเป็นที่อาหารก็คงไม่ใช่ เพราะเด็กที่ท้องร่วงเขาอยู่กันคนละโรงเรียน
ในจังหวัดชัยภูมิ เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง มีการรับประทานอาหารกลางวันตามปกติ พอกลับบ้านไปตกกลางคืนเริ่มมีอาการท้องร่วง โดยเป็นแบบนี้หลายคนในโรงเรียน แต่ความแปลกของเรื่องนี้คือ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 พบว่ามีนักเรียนอีกหลายโรงเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยม ก็เกิดอาการป่วยท้องร่วง เช่นเดียวกัน โดยเด็กนักเรียนทุกคนที่ท้องร่วงจะมีลักษณะอาการเริ่มตั้งแต่ ปวดท้องอย่างหนัก เวียนศีรษะ รวมแล้วทั้ง 2 วัน พบว่ามีนักเรียนป่วยด้วยอาการท้องร่วงกว่า 150 คน ไม่รู้ว่าโรงพยาบาลจะพอรองรับไหม
จนกระทั่งช่วงบ่ายวานนี้ (22 ก.พ.) ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลชัยภูมิ ว่ายังคงมีเด็กนักเรียนที่ป่วยด้วยอาการท้องร่อง เข้ารักษาตัวอย่างต่อเนื่อง รวมแล้วจากวันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ 2566 มีนักเรียนที่ป่วยด้วยอาการท้องร่วงแล้วกว่า 300 คน โดยคาดว่าจะพุงสูงถึง 500 คน
ด้าน นายโภสณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ฝากถึง ผู้ปกครอง ว่าช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน หากรับประทานอาหารที่เก็บไว้นานอาจจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพได้ รวมทั้งในส่วนของร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้โรงเรียนต้องระวังเรื่องความสะอาด โดยหลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบร้านอาหารต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อยับยั้งโรคท้องร่วง อาเจียน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้
ด้าน นายแพทย์ วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดชัยภูมิ บอกว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยเร่งตรวจสอบโรงน้ำแข็งในพื้นที่ทุกแห่ง คาดว่าน่าจะเกิดจากเชื้อโนโรไวรัส ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ไวรัสชนิดนี้ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วแม้ร่างกายได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย โนโรไวรัส มักจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในภาคอีสาน โดยกรมควบคุมโรคประชาสัมพันธ์ทุกปีให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุระมัดระวังการรับประทานอาหาร-น้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ และดูแลสุขอนามัย รับประทานอาหารสุก สะอาด เน้นล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อย ๆ ในช่วงหน้าร้อนนี้รับประทานควรระวัง โดยเฉพาะการกินร้อนช้อนกลาง และอาหารที่ปรุงสุกใหม่อยู่เสมอ
