เกาหลีเก๊ จงใจเปลี่ยนชื่อให้เหมือนโอปป้า ลักลอบนำเข้ายาอี ยาเลิฟ face off ศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าหลายครั้ง จนไม่เหลือเค้าเดิม แม่มีประวัตินำเข้ายาเสียสาว หลังพ้นโทษย้ายไปอยู่ต่างแดน ตำรวจเชื่อมีระดับสั่งการใน ตปท. เพราะคนร้ายอายุแค่ 25 ปี แต่รู้วิธีตัดช่องทางการสืบสวน
พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับสืบสวนนครบาล แกะรอยก่อนจับกุมตัว นายจีมิน-ซ็อง เกาหลีเก๊ ซึ่งแท้จริงเป็นคนสัญชาติไทย ทำศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงใบหน้า Face off ไม่เหลือเค้าโครงเดิม” เพื่ออำพรางการติดตามของตำรวจในคดีค้ายาเสพติดนาน 3 ปี
เกาหลีเก๊ หรือนายจีมิน-ซ็อง ชื่อเดิมคือนายสหรัฐ อายุ 25 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตั้งแต่ปี 65 มีพฤติการณ์ร่วมกันนำเข้าและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาอี หรือ ยาเลิฟ (MDMA) โดยจับกุมได้ที่ห้องพักในคอนโดชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตบางนา กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลางโทรศัพท์ 2 เครื่อง ซึ่งใช้ในการติดต่อสั่งนำเข้ายาเสพติดจากต่างประเทศ และทรัพย์สินอีก 22 รายการ
ในชั้นสืบสวนพบว่า เกาหลีเก๊ หรือหนุ่มรูปหล่อสั่งนำเข้ามาทางพัสดุไปรษณีย์ทางอากาศ จากประเทศแถบทวีปยุโรป มักใช้บุคคลที่ตนเองรู้จักผ่านทางเฟซบุ๊กให้คอยรับส่งพัสดุยาเสพติด โดยที่ตนเองไม่ต้องสัมผัสกับยาเสพติดโดยตรง อีกทั้งนายจีมิน-ซ็อง ยังได้ศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงใบหน้าหลายครั้ง จนกลายเป็นคนละคน ไม่เหลือเค้าโครงเดิม ( Face off ) มาจนมุมเพราะตำรวจแฝงตัวมาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก สมัครเป็นเด็กส่งของ จนสามารถสืบทราบได้ว่า นายจีมิน-ซ็อง พักอยู่ที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งและนำกำลังเข้าจับกุมตัว
ในชั้นจับกุม หนุ่มเกาหลีเก๊ รับสารภาพว่า เปลี่ยนชื่อมาเป็นภาษาเกาหลีเพราะอยากย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่พูดภาษาเกาหลีได้เพียงเล็กน้อย และยังออกเสียงไม่ได้ นอกจากนี้ยังยอมรับว่าแม่แท้ๆ ก็เคยถูกดำเนินคดีจำหน่ายยาเสพติดชนิด "ยาเสียสาว" จำนวนกว่า 200,000 เม็ด โดยนำเข้ามาจากประเทศปากีสถาน เมื่อปี 2554 ซึ่งปัจจุบันมารดาได้พ้นโทษออกมาแล้ว และย้ายไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส
หนุ่มเกาหลีเก๊ เริ่มเข้าวงการจำหน่ายยาเสพติด จากการเข้าไปศึกษาในดาร์กเว็บและแช็ตพูดคุยทำให้มีคอนเน็กชันนำเข้ายา MD หรือยาอี จากทั่วโลก จะซื้อขายจ่ายเงิน ผ่านทางคริปโทเคอเรนซีและได้ยอมรับว่า ล่าสุดตนเองได้สั่งยาอีที่กำลังจะเข้ามาในไทย อีกจำนวนครึ่งกิโลกรัม และ 30 กิโลกรัม แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่าคนร้ายรู้จักวิธีการตัดช่องทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ และมีการศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงใบหน้า เพื่ออำพรางการติดตาม และด้วยคนร้ายมีอายุเพียง 25 ปี แต่สามารถเป็นระดับหัวของการนำเข้ายาเสพติดจากทางยุโรปได้ น่าเชื่อว่าจะมีผู้ที่คอยให้การสนับสนุนอยู่ในต่างแดน ซึ่งตำรวจจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด