ข่าวเด็ด 7 สี - ข่าวที่เรานำมาขยี้วันนี้ เราตามต่อเนื่องมาเป็นสัปดาห์ที่ 3 กับการทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ชื่อดัง มาเก๊า888 ตั้งแต่ เบนซ์ เดม่อน ตัวการใหญ่กลับมาและถูกจับกุมตัวไป หลายคนจับตามองว่า ตำรวจไซเบอร์จะทำอะไรต่อ
ขยายผลทลาย มาเก๊า888 ยังไม่ถึงเป้าสำคัญ
สัปดาห์ที่แล้วเกริ่นไว้ว่า จะมีการออกหมายจับและเปิดปฏิบัติการเข้าจับกุม ตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่ม ปรากฎว่ามีจริง ๆ แต่เป็นคนปลายแถว ที่กลายมาเป็นตัวแปรสำคัญให้ตำรวจ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ หนึ่งในตัวตึงจอมแฉเรื่องฉาวของตำรวจออกมา ขยี้จุดชนวนระเบิดเวลาว่า มีข้อมูลตำรวจเข้าไปเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์มากกว่า 100 นาย ถ้าไม่ทำอะไรกับตำรวจเหล่านี้จะเอาป้ายไปแขวนที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดชื่อทุกคน ส่วนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ก็ขู่เลยว่า จะมีปฏิบัติการล้มยักษ์ตามมา โดนจัดหนักกันขนาดนี้ ตำรวจเขาทำอะไรกันบ้าง
เริ่มกันที่ปฏิบัติการของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ ที่สัปดาห์นี้ไปเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 3 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 แห่ง และที่จังหวัดสกลนคร 1 แห่ง โดย 2 จุดแรก อยู่ที่คอนโดมีเนียม ย่านบางเขน และย่านทุ่งครุ เป้าหมายคือนางแบบเซ็กซี 2 คนที่ไปเล่นเอ็มวี ให้เว็บมาเก๊า888 ซึ่งตำรวจได้กันเธอทั้ง 2 คนไว้เป็นพยานในคดีนี้
ส่วนจุดที่สาม ในอำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร จุดนี้ตำรวจไปค้นบ้านพักของ นายอนุวัฒน์ นักร้องเพลงแนวแรปเปอร์ ฉายา MC KING คนแต่งและร้องเพลงประกอบโฆษณาให้กับเว็บฯ พนัน มาเก๊า888 ที่หลายคนคุ้นหูกัน ตำรวจก็ส่งฟ้องศาลแขวงดอนเมือง ในข้อหา ประกาศ โฆษณาและชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าตัวสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลตัดสินจำคุก 1 เดือน ปรับ 1,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี
ทางทีมข่าว ได้มีโอกาสสอบถามนางแบบเซ็กซีทั้ง 2 คนว่า เธอไปรับงานของเว็บนี้ได้ยังไง พวกเธอบอกว่าได้รับการติดต่อเมื่อปี 2562 จากเอเจนซี ชื่อ บิ๊ก ให้ไปร่วมรายการเซ็กซี และถูกขอให้เต้นเซ็กซี โดยไม่การเปิดเพลง ฉากด้านหลังก็เป็นฉากบูลสกรีน และไม่เห็นสัญลักษณ์ที่จะสื่อไปถึงเว็บฯ พนัน มาเก๊า888 มารู้อีกทีก็หลังจากที่มีคนมาบอกว่า เห็นภาพของทั้งสองคนอยู่ในโฆษณาแล้ว จึงติดต่อคนว่าจ้างให้ลบออก แต่ก็ไม่มีการแก้ไขอะไร
และล่าสุดคดีนี้ก็มีความเคลื่อนไหว เพราะพลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการ ตำรวจไซเบอร์ เรียกประชุมทีมงานชุดสืบสวนสอบสวนคดีนี้ มาพิจารณาพยานหลักฐาน ก่อนจะออกมาบอกว่า จะไปขอศาลออกหมายจับ นายกิตติพงษ์ หรือ บิ๊ก น้องชายของเบนซ์ เดม่อน ในข้อหาจัดให้มีการเล่นการพนัน และฟอกเงิน
ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินคดีกับนักร้องแรปเปอร์ที่แต่งเพลงมาเก๊า และนางแบบ 2 คน เมื่อกี้นี้ ซึ่งผู้ติดต่อว่าจ้างมีความเชื่อมโยงกับหนึ่งในพี่น้อง 4 บ. ทั้งนี้ หากศาลออกหมายจับแล้ว นาย กิตติพงษ์ ยังไม่ติดต่อเข้ามอบตัว จะประสานสำนักงานกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ตำรวจสากลพิจารณาออกหมายแดง ตามจับกุมตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยต่อไป
วิกฤตศรัทธา ตำรวจเอี่ยวพนันออนไลน์กว่า 100 นาย ?
คดีที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ดูจะล่าช้าไม่ทันใจหลายคน รวมไปถึง นายอัจฉริยะ ที่ก่อนหน้านี้เคยนำข้อมูลตำรวจที่มีเอี่ยวกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ 17 เว็บไซต์ ไปให้ตำรวจไซเบอร์จัดการ แต่จนถึงตอนนี้เขามองว่า ตำรวจปล่อยเกียร์ว่าง เลยบุกไปทวงอีกรอบ
คราวนี้ขู่ว่า มีข้อมูลของตำรวจในและนอกราชการไปเกี่ยวข้องถึง 100 นาย เป็นกลุ่มตำรวจนายพล ประมาณ 10 นาย ระดับรองผู้บังคับการและผู้กำกับการ 20 คน ที่น่าตกใจ คือ ระดับสารวัตร เป็นกลุ่มที่เข้าไปมีเอี่ยวมากที่สุดถึง 60-70 นาย เป็นการชักชวนกันผ่านกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่น อาทิ สารวัตรซัว เป็นต้น ข้อมูลนี้อาจจะดูกว้าง ๆ ไป
ถามแบบเจาะลึก แบบที่มีหลักฐานแน่ชัดอยู่หน่วยไหนยังไงบ้าง ด้าน คุณอัจฉริยะ บอกว่า เป็นตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT 3 นาย, สังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2 นาย, สำนักงานจเรตำรวจ 1 นาย และอยู่กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ 1 นาย
คำถามคือทำไมตำรวจถึงเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องมากขนาดนี้ โดยทางคุณอัจฉริยะ ได้มีการกล่าวว่าเรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 3ยุค
ยุคแรก เริ่มมีเว็บพนันออนไลน์เมื่อ 5 ปีก่อน มีเว็บดัง ๆ อยู่ไม่กี่เว็บ มีตำรวจ บก.ปอท. หน่วยเดียวที่ไปจับกุม ผลการจับกุมก็มีไม่มาก มีตำรวจนอกแถวเรียกรับประปราย
ยุคที่ 2 มีเว็บพนันและอาชญากรรมออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงมีการตั้งศูนย์ PCT และกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ตามมายุคนี้เริ่มมีการเรียกรับมากขึ้นเรื่อย ๆ มีการเรียกค่าคุ้มครอง รายเดือน รายปี
ก่อนจะยกระดับสู่ยุคที่ 3 คือ ตำรวจนอกแถวที่เรียกรับ กลายร่างไปเป็นหุ้นส่วน บางนายเก็บเงินได้เยอะ ระดมทุนได้มาก ก็เป็นเจ้าของเว็บพนันเสียเอง บางนายหนักไปกว่านั้นเป็นเจ้าของเครือข่ายเว็บพนัน แล้วส่งเงินให้นักการเมืองคุ้มครองอีกที ซึ่งอาจมีเงินหมุนเวียนในวงจรอุบาทนี้มากกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท
ขนาดนี้คงสงสัยว่าสถานการณ์วิกฤตศรัทธาที่เกิดขึ้นในวงการตำรวจมันหนักหนาเลวร้ายถึงขนาดนั้นเชียวหรือ จึงได้ถามเรื่องนี้กับทาง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ท่านเชื่อว่า สถานการณ์คงไม่เลวร้ายไปถึงขนาดนั้น แต่หากมีบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายจริง ไม่ว่าจะจำนวนเท่าไหร่ก็ต้องดำเนินการให้เด็ดขาดทุกคน
คงต้องติดตามว่าในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ รายชื่อตำรวจที่ไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ของ คุณอัจฉริยะ จะมีใครบ้าง แล้วที่สำคัญสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกู้วิฤกตศรัทธาที่นับวันจะทวีความรุนแรงมาขึ้นเรื่อย ๆ นี้ได้อย่างไร ซึ่งอาจเริ่มจากการกวาดล้างตำรวจนอกแถวที่ไปมีเอี่ยวกับพนันออนไลน์เหล่านี้
