ตะลึง! ปทส. บุกจับพ่อค้าสัตว์ป่าฯ เจอซากตัวเงินตัวทองรอชำแหละ ส่งขายทำอาหาร พร้อมยึดตัวเงินตัวทอง-เต่าที่ยังไม่ตายอีกเพียบ เจ้าตัวสารภาพรู้ผิดกฎหมาย แต่ทำนาขายข้าวไม่ได้กำไร
วันนี้ (28 ก.พ.66) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พสิทธิ์ ผบก.ปทส. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อริยพล สินสอน รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิญญ แจ่มใส ผกก.2 บก.ปทส. และ พ.ต.อ.ภัทรวุธ อ่อนช่วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อู่ทอง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามด้านสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี หลังสืบทราบว่าบ้านพักหลังดังกล่าวมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงนำกำลังไปตรวจสอบทันที
เมื่อไปถึงพบบนายมน อายุ 73 ปี เจ้าของบ้าน และนายสิทธิ์ อายุ 67 ปี พ่อค้ารับซื้อซากสัตว์ป่า มานั่งรอสินค้า โดยที่กลางลานหน้าบ้าน พบคนงานชายหญิง 5 คน กำลังชำแหละตัวเงินตัวทอง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยการใช้ค้อนเหล็กทุบหัวให้ตาย จากนั้นจะใช้ไฟจากถังแก๊สเผาหนัง โยนซากทับกันไว้เป็นกองใหญ่รวม 59 ซาก บางตัวก็ยังไม่ตาย เจ้าหน้าที่เห็นดูแล้วอนาถใจเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ยังพบตัวเงินตัวทองที่ยังมีชีวิตถูกจับอยู่ในถุงตาข่ายพลาสติกสีฟ้าอีกจำนวน 32 ตัว และพบเต่านา 20 ตัว เต่าหับ 2 ตัว เต่าดำ 6 ตัว อยู่ในกะละมังขนาดใหญ่ 6 ใบ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิดอีก 6 รายการ
นายมนต์ ให้การว่า ตัวเงินตัวทองและเต่าที่พบเป็นของตนเอง โดยรับซื้อมาจากชาวบ้านอีกทีหนึ่งเพื่อทำการแปรรูปแล้วจำหน่ายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อในกิโลกรัมละ 25 บาท ได้กำไรแค่กิโลละ 5 บาท ทราบว่าซื้อไปกินกัน แต่ตนไม่เคยกิน ส่วนเต่าก็ซื้อมาและขายต่อให้พวกที่ชอบทำบุญปล่อยเต่า ขายตัวละ 100–150 บาท ทั้งนี้ ยอมรับว่ารู้ว่าผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่รู้จะทำอาชีพอะไร มีแค่ทำนาปี ขายข้าวก็ไม่ได้กำไร
ขณะที่นายสิทธิ์ ยอมรับว่าเป็นเพียงผู้มารับซื้อซากตัวเงินตัวทองที่ชำแหละแล้วเท่านั้น เพื่อนำไปจำหน่ายต่อในราคากิโลกรัมละ 120 บาท โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเงินตัวทองที่ยังมีชีวิตอยู่และเต่าจำนวนดังกล่าว ส่วนคนงานชายหญิงทั้ง 5 คน บอกว่า ได้มารับจ้างชำแหละตัวเงินตัวทองได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท โดยไม่ทราบว่าสัตว์ดังกล่าวเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองและมีความผิด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.อู่ทอง ดำเนินคดี ส่วนตัวเงินตัวทอง และเต่า ที่ยังมีชีวิต นำไปเก็บดูแลรักษาที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบึงฉวาก อ.เดิมบางนางบวช ต่อไป
