คอลัมน์หมายเลข 7 : จับตาการสางทุจริตในแวดวงอัยการ

View icon 223
วันที่ 2 มี.ค. 2566 | 20.14 น.
ข่าวภาคค่ำ
แชร์
ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ติดตามการกวาดบ้านครั้งใหญ่ในสำนักงานอัยการสูงสุด หลังอัยการสูงสุดมีคำสั่งตรวจสอบ 6 คดีดัง ที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง รวมถึงรื้อดูสำนวนที่มีคำสั่งไม่ยึดของกลางคดีรถหรูเลี่ยงภาษี จนนำไปสู่การถอนอายัดรถหรู 111 คัน จะสะเทือนอัยการสีเทาอย่างไร ติดตามจาก คุณสุธาทิพย์ ผาสุข

เป็นคำสัมภาษณ์ของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เจ้าพ่อจอมแฉ ที่บอกกับคอลัมน์หมายเลข 7 ถึงความไม่มั่นใจกับการกวาดบ้านครั้งใหญ่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าจะดำเนินการจริงจังหรือไม่ แม้อัยการสูงสุดจะมีคำสั่งตั้งคณะทำงาน 5 ชุด ตรวจสอบ 6 คดีดังที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง โดย 1 ใน 6 คดี มีเรื่องที่ ชูวิทย์ ยื่นร้องไปรวมอยู่ด้วย ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญที่ นางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าคณะทำงานที่ตั้งขึ้นไม่ใช่แค่การทำเพื่อแก้เกี้ยว

คดีที่ นายชูวิทย์ พูดถึง คือ กรณีค้ามนุษย์ ของ นายกำพล วิริยะเทพสุภรณ์ กับพวก โดยเขาแจกแจงถึงเส้นทางการวิ่งเต้นคดี ทะลุทะลวงไปถึงวงการอัยการ ผ่านอธิบดีคนหนึ่ง หลังมีการบุกจับวิคตอเรียซีเคร็ท ลักลอบค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยมีผู้เสียหายที่ถูกบังคับค้าประเวณีอายุ 12-13 ปี รวมอยู่ด้วย

การวิ่งเต้นเพื่อให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง ยังโยงไปถึง ป.ป.ง. เพื่อไม่ให้อายัดเงินจากธุรกิจน้ำกาม ที่เป็นข่าวฮือฮาในปี 2561 และเป็นวิบากกรรมตามไล่ล่าพนักงานอัยการที่ทำคดี รวมถึงผู้มีคำสั่งไม่ฟ้องลูกและภรรยาของนายกำพล ด้วย

นั่นเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของคดีที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ท่ามกลางข้อสงสัยของสังคม มีเงินทอน หรือผลประโยชน์ใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยเมื่อดูไส้ในของคดี จะพบว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบคดีส่วนใหญ่เป็นของสำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งนับตั้งแต่ นางสาวนารี เข้าบริหารงาน ก็กระชับอำนาจด้วยการให้รายงานทุกคดีในความรับผิดชอบต่ออัยการสูงสุด และล่าสุดยังมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหารายหนึ่งในคดีรถหรูเลี่ยงภาษี สวนทางกับความเห็นสั่งไม่ฟ้องของอธิบดีอัยการสำนักคดีพิเศษ อีกทั้งยังมีคำสั่งเพิ่มเติมให้ตรวจสอบสำนวนรถหรูทุกคดี ที่ส่งผลให้ดีเอสไอไปถอนอายัดรถหรูจำนวน 111 คันด้วย

หลังจากนี้คงต้องติดตามต่อว่า สัญญาณแรงที่ส่งมาว่าจะมีการกวาดขยะที่ซุกใต้พรมสำนักงานอัยการสูงสุดออกมาจะทำได้มากน้อยแค่ไหน หรือสุดท้ายฝุ่นจากพรมจะคลุ้งจนมองอะไรไม่เห็น จับต้นชนปลายไม่ได้ ปล่อยให้เรื่องฉาวหายไปกับสังคมเป็นความท้าทายที่ถือก้าวสำคัญของอัยการสูงสุดที่ชื่อ นารี ตันฑเสถียร ว่าจะฝากผลงานก่อนการเกษียณอายุราชการในอีก 7 เดือนข้างหน้า ให้คนในสังคมไทยจดจำอย่างไร