ภาพวงจรปิดภายในชุมชนเอื้ออาทร ในจังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ขณะที่มีเด็กหญิงวัย 6 ขวบ คนหนึ่งกำลังเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อภายในชุมชน ระหว่างนั้นสุนัขจรจัดที่นอนเล่นบริเวณดังกล่าวอยู่ๆ ก็ลุกวิ่งมากัดเธอและยังมีสุนัขตัวอื่นพยามเข้ามารุมกัดเธอ จนเธอต้องร้องโวยวายเสียงดังทำให้สุนัขหยุดกัดก่อนจะรีบกลับมาบอกผู้ปกครอง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 มีนาคม 2566 โดยได้พูดคุยกับทางคณะกรรมการนิติที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งยอมรับว่าเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่พื้นที่จุดดังกล่าวอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของทางนิติ แต่เป็นความรับผิดชอบของทางการเคหะแห่งประเทศไทย จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์การเยียวยาค่ารักษาพยาบาลต่อลูกบ้าน ตามข้อตกลงของคนในชุมชน
นายมนู บิดาของเด็กหญิงที่ถูกสุนัขรุมกัด ออกมาเปิดใจกับนักข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยังเคราะห์ดีที่ลูกสาวไม่ล้มลงไปจนอาจทำให้ถูกรุมกัดและได้รับบาดเจ็บไปมากกว่านี้ ซึ่งในวันดังกล่าวบุตรสาวใส่กางเกงขายาวจึงทำให้เขี้ยวของสุนัขเข้าไม่ลึกและพาไปฉีดยาวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าแล้ว ที่ผ่านมาพบว่าสุนัขจรจัดในชุมชนมีเพิ่มมากขึ้นและมีนิสัยดุร้ายมากขึ้นมักชอบไล่กัดผู้คนที่เดินผ่านไปมา โดยเฉพาะสุนัขฝูงดังกล่าวจะมีอยู่หลายตัว ที่ผ่านมาแจ้งเรื่องและปัญหาไปทางนิติและการเคหะก็ไม่ได้รับการแก้ไขที่ดี จนทำให้ทุกวันนี้อยู่กันอย่างหวดกลัว
ขณะที่ป้ากบ หนึ่งในคนในชุมชนดังกล่าวบอกว่า ตนเองก็เคยถูกสุนัขจรจัดในนี้กัดขาด้วยเช่นกัน ขณะเดินเล่นพักผ่อนด้านหลังตึกจนทุกวันนี้ไม่กล้าออกมานั่งเล่นหรือเดินเล่น ออกมาแค่จำเป็นเท่านั้น
ส่วนทางด้านนิติบุคคล นายบุญจันทร์ ทรัพย์ประสม ประธานนิติ 2 บุคคลเอื้ออาทรสุวรรณภูมิ 1 บอกว่า ชุมชนเอื้ออาทรแห่งนี้มีประชาชนรวมกว่า 5,000 ครอบครัว แบ่งเป็น 5 นิติ ปัจจุบันมีสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในเอื้ออาทรแห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 300 ตัว ที่ผ่านมาพยามแก้ปัญหาสุนัขจรจัดนี้มาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะการจับทำหมันไปแล้วกว่า 150 ตัว การจับฉีดยาคุม แต่ก็พบปัญหาหลักคือพอทำอะไรลงไปก็จะถูกคนรักสุนัขถ่ายรูปส่งไปยังองค์กรที่รักสัตว์นำมาสู่การแจ้งความจับจนตกเป็นคดีความอยู่ในขนาดนี้ ซึ่งโทษค่อนข้างสูง จึงทำให้ทางคณะกรรมการนิติไม่สามารถดำเนินการใดๆกับสุนัขเหล่านี้ได้
เคยติดต่อหาบ้านพักให้สุนัขจรจัดเหล่านี้ก็ถูกปฏิเสธหมดเนื่องจากมีจำนวนเยอะ พอมีเอกชนที่รับดูแลก็ต้องเสียค่าอาหารรายเดือนซึ่งค่อนข้างสูงทำให้ไม่สามารถจ่ายค่าดูแลได้ ที่ผ่านมาร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็หวดกลัวเรื่องกฎหมายทารุณกรรมสัตว์ที่ถูกแจ้งความจับกันมาหลายครั้ง
ล่าสุดร้องไปยังท้องถิ่นก็ยังไม่มีความคืบหน้า โดยสุนัขดังกล่าวยังคงเพิ่มมากขึ้นและจะอาศัยตามใต้ท้องรถใต้ถุนอาคารเป็นที่หลบซ่อน พอตกเย็นก็จะพากันออกมารอคนให้อาหารที่เคยให้ประจำ พอมีลูกบ้านเดินผ่านก็มักชอบออกมาไล่หนักสุดคือรุมกัด จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยจัดการสุนัขจรจัดในชุมชนแห่งนี้
