ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 มี.ค. 66 เวลา 16.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.จักรทอง คำมาพล รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางบ่อ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลบางบ่อ ว่ามีประชาชนสองคน คือ นายวาลิน เมษา อายุ 26 ปี และ น.ส.ศิริพร สิงห์ทอง อายุ 21 ปี สามีภรรยา มาร้องทุกข์ว่าถูกเจ้าของหอพักแห่งหนึ่ง อยู่ในซอยปรียาพร ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ปิดล็อกประตูห้องพักเลขที่ 312 ชั้นที่ 3 โดยไม่มีเหตุผลใดๆ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้นอนตั้งแต่คืนวันที่ 1 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา กระทั่งถึงเวลา 16.30 น. วันที่ 2 มี.ค. 66 ยังไม่สามารถเข้าห้องพักได้ และยังมีทรัพย์สินมีค่าอยู่ในห้องพักอีกด้วย นอกจากนี้ ค่าไฟฟ้าที่หอพักแห่งนี้เรียกเก็บมีราคาสูงมากเกินปกติ คือ 5,888 บาท จึงต้องการขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบ
หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.จักรทอง พร้อมเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลบางบ่อ และผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ไปยังหอพักดังกล่าว พบกับผู้ร้องทุกข์ทั้งสองคนยืนรออยู่หน้าหอพัก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์พูดคุยกับเจ้าของหอพักดังกล่าว ถึงเหตุผลของการปิดล็อกห้อง แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน และไม่ยอมเปิดห้องให้ พร้อมยืนยันคิดค่าไฟฟ้าถูกต้องแล้ว ผู้ร้องทุกข์จึงพาเจ้าหน้าที่เดินขึ้นไปดูห้องพัก ก็พบว่าถูกล็อกจริง พร้อมดูมิเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่หน้าห้องพัก ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ก่อนจะเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บางบ่อ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของหอพักดังกล่าว
จากการสอบถามผู้เสียหายทั้งคู่ บอกว่า ตนทั้งสองคน และมีน้องชายภรรยาอีก 1 คน ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาเช่าห้องพัก รวมทั้งหมด 3 คน ได้เช่าและเข้าพักตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 66 ในราคาค่าเช่าเดือนละ 2,500 บาท ค่าน้ำ ค่าไฟ จ่ายตามมิเตอร์ที่ติดตั้งอยู่หน้าห้อง ตนมีอาชีพขายอาหาร ทุกวันจะเลิกงานดึก และจะกลับมาที่ห้องพักประมาณ 03.00 น. เป็นประจำ มีอยู่วันหนึ่งพวกตนกลับมาแล้วหิว จึงนั่งกินข้าวอยู่ในห้อง และพูดคุยกัน อาจจะเสียงดังไปหน่อย ทำให้ผู้พักอาศัยข้างห้องไปร้องเรียนกับเจ้าของหอพัก และได้มีการแจ้งเตือนมา ซึ่งตน ก็ได้ทำตาม และไม่เคยกลับมากินข้าวทำเสียงดังรบกวนผู้พักอาศัยข้างห้องอีกเลย
หลังจากนั้นพวกตนก็มักจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกับเจ้าของหอพักอยู่เป็นประจำ จนทำให้มีความคิดย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ต่อมาเมื่อปลายเดือน ก.พ. 66 ที่ผ่านมา จึงแจ้งกับเจ้าของหอพักว่า จะขอคืนห้องพักและย้ายออก ทางเจ้าของหอพักจึงแจ้งให้ตนโอนเงินค่าเช่าห้องทั้งหมดที่ค้าง รวมค่าน้ำค่าไฟ เป็นเงิน 8,840 บาท มีรายละเอียดตามใบแจ้งหนี คือ ค่าเช่าห้อง 2,500 บาท ค่าส่วนกลาง 200 บาท ค่าน้ำ 252 บาท และ ค่าไฟฟ้า 5,888 บาท ซึ่งตนได้โอนเงินชำระให้ทั้งหมด ไม่มีค้าง
กระทั่งในคืนวันที่ 1 มี.ค. 66 กลับถูกเจ้าของหอพักล็อกห้องของตน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน และยัดเยียดข้อหา กล่าวหาว่าตนพาคนอื่นมาพักอยู่ด้วย ซึ่งคนที่เจ้าของหอพักกล่าวหานั้นคือน้องชายภรรยา ซึ่งเป็นคนที่ทำสัญญาเช่าห้อง แล้วจะเป็นคนอื่นได้อย่างไร ตนพยายามอธิบาย แต่เจ้าของหอพักไม่ฟัง เมื่อพิจารณาดูแล้ว ห้องตนมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นแอร์ 1 เครื่อง พัดลม 2 เครื่อง เครื่องซักผ้า 1 เครื่อง แล้วทำไมค่าไฟฟ้าถึงได้แพงเกินไปถึง 5,888 บาท ในขณะที่ข้างห้องมีแอร์ 1 ตัว จ่ายค่าไฟฟ้าไม่ถึง 1 พันบาท ตนจึงฝากผ่านสื่อถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบให้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา หลังจากที่ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบ่อ เจ้าของหอพักได้ติดต่อผ่านเจ้าหน้าทีตำรวจ และยอมเปิดประตูห้องพักให้แล้ว แต่ผู้เสียหายยืนยันดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
