ห้องข่าวภาคเที่ยง - เปิดประเด็นวันนี้ มีเรื่องเกี่ยวกับก๊าซหุงต้ม ที่ตอนนี้ราคาสุดโหด ปาเข้าไป 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมไปแล้ว เรียกว่าภายในหนึ่งปีที่ผ่านมาราคาเพิ่มขึ้น 105 บาทแล้ว และด้วยเหตุผลที่ราคาเพิ่มขึ้นนี่แหละ
เราจึงได้รับการร้องเรียนให้ช่วยไปตรวจสอบ กรณีมีการนำถังก๊าซหุงต้ม ไปแอบเติมก๊าซ LPG ที่ใช้กับรถยนต์ ที่สถานีบริการในย่านบางบัวทอง บอกเลยว่า นอกจากอันตรายแล้ว ยังฝ่าฝืนกำหมายควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย ซึ่งเดี๋ยวจะได้ไล่เรียงประเด็นให้ฟัง แต่ก่อนอื่นไปชมการลักลอบขนถังก๊าซหุงต้ม ไปเติมก๊าซในสถานบริการกันก่อน
ภาพที่คุณผู้ชมเห็น กว่าจะได้มาไม่ง่าย ทีมข่าวของเราต้องไปซุ่มโป่งอยู่หลายชั่วโมง ตามพิกัดที่ผู้ร้องเรียนให้มา จนเห็นชัดคาตาเลยว่า มีการนำก๊าซหุงต้ม มาเติมในสถานบริการจริง ๆ โดยพบว่า หลังช่วง 21.00 น. สถานบริการดังกล่าวจะปิดไฟภายในบริเวณปั๊มและหัวจ่าย เหมือนปิดให้บริการแล้ว แต่กลับมีรถกระบะ และรถชนิดอื่น ๆ วนเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย และนำหัวจ่ายเข้าไปเติมภายในกระบะของรถแต่ละคัน ซึ่งคาดว่า ข้างในน่าจะเป็นถังก๊าซหุงต้มแบบใช้ในครัวเรือน ที่มีการลักลอบจำหน่ายให้
โดยทีมข่าวของเราใช้เวลาสังเกตการณ์ ราวหนึ่งชั่วโมง กว่าจะสามารถบันทึกภาพการลักลอบเติมก๊าซให้กับถังก๊าซหุงต้มได้แบบชัดเจน อย่างที่คุณผู้ชมเห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง นำถังก๊าซหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม มัดไว้ที่เบาะหลัง ก่อนจะเข้าไปจอดรอที่บริเวณหัวจ่าย มีพนักงานนำหัวจ่ายไปบรรจุก๊าซให้ นอกจากนี้ ยังมีรถกระบะอีกคันหนึ่ง บรรทุกถังก๊าซ 3 ใบ มาเติมก๊าซ ซึ่งถือเป็น การใช้งานแบบข้ามประเภท ผิดทั้งกฎหมาย และไม่ปลอดภัยด้วย แม้เนื้อก๊าซจะเป็นชนิดเดียวกันก็ตาม
สาเหตุที่ทำให้มีคนยอมเสี่ยงทั้งทำผิดกฎหมาย และเมินเรื่องความปลอดภัย ก็เป็นเพราะส่วนต่างของราคาห่างกันอยู่มาก ถ้าเติมจากสถานบริการ จะถูกกว่าไปซื้อเป็นถังที่เขาอัดก๊าซมาจากโรงงานถึงถังละประมาณ 45-70 บาท เนื่องจาก ภาครัฐยังขาดมาตรการควบคุม เพราะแม้ว่าจะประกาศราคาอยู่ที่ 423 บาทต่อถัง (ถัง 15 กิโลกรัม)
แต่ประชาชนจ่ายจริงเกือบ 500 บาท จึงทำให้มีการขนถังก๊าซฯ ไปเติมที่สถานบริการ เพราะจะประหยัดในส่วนกำไรของร้านค้าลงได้ แต่ต้องย้ำว่า วิธีการนี้อย่าหาทำ เพราะผิดกฎหมายควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะสถานบริการ หากถูกจับได้ จะมีทั้งโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนทิศทางราคาก๊าซหุงต้มตอนนี้ยังคาดการณ์ยาก แต่ส่วนใหญ่มีแต่จะเพิ่มขึ้น เพราะรัฐบาลมีนโยบายลอยตัวราคาก๊าซตามราคาตลาดโลก ประกอบกับเงินในกองทุนน้ำมัน ที่เคยใช้ในการอุดหนุน ไม่เพียงร่อยหรอ แต่ยังติดลบมากกว่าแสนล้านบาท โดยในส่วนนี้เป็นเงินที่อุดหนุนก๊าซแอลพีจีถึง 46,000 ล้านบาท
กระทรวงพลังงาน เลยตีปี๊บขู่อยู่ตลอดว่า ราคาที่ซื้ออยู่ตอนนี้ ถือว่าถูกกว่าความเป็นจริง เพราะหากไม่มีการอุดหนุนเลย จะต้องจ่ายถึง 509 บาท 70 สตางค์ ไม่ใช่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม อย่างที่ใช้ทุกวันนี้ และแน่นอนว่าถ้าราคาพุ่งไปถึง 509 บาท กว่าจะถึงผู้บริโภคก็บวกไปอีก 50-70
คราวนี้มาดูโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม อ้างอิงจาก ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ขายอยู่ที่ 25 บาท 87 สตางค์ ในจำนวนนี้เป็นภาษีสามประเภทรวมกว่า 3 บาท 85 สตางค์ และยังมีค่าการตลาดอีก 3 บาท 25 สตางค์ แต่ไม่ต้องจ่ายเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งปกติแล้วจะเก็บที่ 8 บาท 11 สตางค์ ส่วนนี้ยกเว้นไป เลยทำให้ราคาก๊าซหุงต้มไม่ไปแตะหลัก 500 บาท อย่างที่เล่าให้ฟังไปในตอนต้น
มีคำแนะนำจากนักวิชาการ ถึงวิธีการที่จะให้ราคาก๊าซหุงต้มถูกลงว่า ควรมีการปรับสูตรโครงสร้างราคาใหม่ และนำก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย มาให้ภาคครัวเรือน และขนส่งใช้ก่อน ไม่ใช่ส่งตรงไปให้ภาคปิโตรเคมีอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งหากทำได้ราคาก๊าซหุงต้ม เราอาจจะได้เห็นว่า ลดลงเหลือประมาณ 350 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม
