ปริมาณ “แม่น้ำชี” ด้าน จ.ยโสธร เริ่มแห้งขอดอย่างรวดเร็ว จนตอม่อสะพานโผล่ แพสูบน้ำ ต่อท่อสูบน้ำในระดับต่ำสุดแล้ว จนชาวนาเกรงวิกฤต แย่งน้ำทำนาปรังปีนี้

ปริมาณ “แม่น้ำชี” ด้าน จ.ยโสธร เริ่มแห้งขอดอย่างรวดเร็ว จนตอม่อสะพานโผล่ แพสูบน้ำ ต่อท่อสูบน้ำในระดับต่ำสุดแล้ว จนชาวนาเกรงวิกฤต แย่งน้ำทำนาปรังปีนี้

View icon 187
วันที่ 5 มี.ค. 2566 | 09.27 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
ปริมาณ “แม่น้ำชี” ด้าน จ.ยโสธร เริ่มแห้งขอดลงอย่างรวดเร็ว จนมองเห็นตอม่อสะพาน และสันดอนทรายโผล่เป็นช่วงๆ ขณะที่แพสูบน้ำ ต่อท่อสูบน้ำในระดับต่ำสุดแล้ว จนชาวนาเกรงวิกฤต แย่งน้ำทำนาปรังปีนี้



สถานการณ์ภัยแล้ง จ.ยโสธร ( 5มี.ค.66 )  ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงบริเวณด้านท้ายเขื่อนยโสธร ลงไปตอนล่างจนถึงสะพานข้ามแม่น้ำชีบ้านดอนขะยอม ตำบลสงเปลือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เริ่มแห้งขอดลงอย่างรวดเร็ว จนมองเห็นสันดอนทรายโผล่กลางแม่น้ำเป็นช่วงๆซึ่งบางช่วงน้ำเหลือน้อยจนสามารถเดินข้ามได้ โดยที่บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำชีพบว่าปริมาณน้ำลดลงอย่างรวดเร็วจนมองเห็นตอม่อสะพานและเห็นพื้นทรายเป็นบริเวณกว้าง

ขณะเดียวกันแพสูบน้ำของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าในพื้นที่ได้ทำการต่อท่อสูบน้ำในระดับต่ำสุดแล้วเพื่อให้สามารถสูบน้ำส่งไปให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังจำเป็นต้องใช้น้ำจากแม่น้ำชีในการทำนาปรังปีนี้จึงหวั่นเกรงว่าจะไม่มีน้ำเพียงพอในการทำนาปรัง โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลเขื่องคำ,ตำบลขุมเงิน อำเภอเมืองยโสธรและตำบลสงเปลือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งมักพบว่าจะมีเกษตรกรหันไปทำนาปรังกันเป็นจำนวนมากในแต่ละปี เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำอยู่ติดกับแม่น้ำชี จึงมักจะประสบภัยน้ำท่วมในช่วงการทำนาปีหรือฤดูน้ำหลากจึงมีเกษตรกรได้หันไปทำนาปรังกันมากขึ้นในช่วงหน้าแล้งภายหลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเสร็จ เพื่อทดแทนการทำนาปีที่ถูกน้ำท่วม และต้องใช้น้ำจากแม่น้ำชีเป็นหลักในการทำนาปรัง แต่ถ้าปริมาณน้ำชีเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วแบบนี้คาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้คงจะไม่มีน้ำเพียงพอในการทำนาปรังแน่นอนเพราะขนาดเป็นช่วงต้นของฤดูการทำนาปรังชาวนายังไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำมากนักปริมาณน้ำยังเหลือน้อยแต่ถ้าเป็นช่วงที่ชาวนาต้องใช้น้ำจำนวนมากคงเกิดวิกฤตแย่งน้ำได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง