ขยี้ข่าวใหญ่ : เตือนตรวจสอบสิทธิ และยืนยันตัวตนตามกรอบเวลา

View icon 20.5K
วันที่ 5 มี.ค. 2566 | 12.01 น.
ข่าวเด็ด 7 สี
แชร์
ข่าวเด็ด 7 สี - วันนี้เราจะมาขยี้ข่าวใหญ่ เกี่ยวกับประชาชนผู้มีรายได้น้อย หลังจากเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา มีการประกาศรายชื่อผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) กันไปแล้ว ปรากฎว่า มี 8 ล้านคน ที่ต้องเคว้ง เพราะพลาดหวัง ไม่ได้รับสิทธิตามที่ตั้งความหวังเอาไว้ แต่ยังไม่หมดโอกาสซะทีเดียว ยังมีวิธีที่จะยื่นอุทธรณ์ เดี๋ยวมาดูกัน แต่สำหรับผู้ที่สมหวังแล้วในครั้งนี้ มี 14,590,000 คน จากจำนวนผู้ลงทะเบียนกว่า 22 ล้านคน ซึ่งรอบใหม่นี้ มีผู้ได้รับสิทธิจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย เพราะ ของเดิมมีอยู่ 13 ล้านกว่าคน 

ขยี้ข่าวใหญ่ : เตือนตรวจสอบสิทธิ และยืนยันตัวตนตามกรอบเวลา
สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิ ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติแล้ว อย่าลืมไปยืนยันตัวตนกันด้วย ที่ธนาคารกรุงไทย ออมสิน และ ธ.ก.ส. โดยจะต้องไปภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ประกาศผลพิจารณา

แต่ย้ำว่า คนที่รู้ว่าตัวเองได้รับสิทธิแล้ว ตั้งแต่รอบการประกาศ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ให้รีบไปยืนยันตัวตน ก่อน 26 มีนาคมนี้ เพื่อให้เริ่มใช้สิทธิได้ทัน วันที่ 1 เมษายน แต่ถ้าติดธุระ ไปไม่ได้จริง ๆ ก็ไปหลังจากนั้นได้ โดยจะแบ่งเป็นรอบๆ ทั้งหมด 5 รอบ ซึ่งวันที่จะเริ่มใช้สิทธิได้ ก็จะแตกต่างกันออกไป ถ้ายืนยันตัวตน ไม่เกิน 26 มิถุนายน ยังมีโอกาสได้รับสิทธิย้อนหลัง แต่จะไม่เกิน 3 เดือน และจะได้เฉพาะวงเงินซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐเท่านั้น พวกค่าเดินทาง ค่าน้ำประปา ค่าก๊าซหุงต้ม จะได้ไม่รับ แต่หากยืนยันตัวตน หลัง 27 มิถุนายน จะไม่ได้รับย้อนหลัง

เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เข้าไปตรวจสอบสถานะได้ ทางเว็บไซต์ในวันถัดไป หรือ ไปที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน

ถ้ายืนยันตัวตนผ่านแล้ว สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ ที่จะได้รับ มีอะไรบ้าง

อย่างยอดเงินที่จะนำไปซื้อสินค้า จะได้ 300 บาท เท่ากันทุกคน จากเดิมที่ได้ 200 บ้าง 300 บ้าง ส่วนค่าก๊าซหุงต้ม รอบนี้ได้ 80 บาทต่อ 3 เดือน ของเดิมได้ 100 บาท ส่วนค่าเดินทางได้ 750 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิม และ ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ได้เท่าเดิม

ถ้าคนที่ผ่านจะได้ตามนี้ แต่ถ้าตรวจสอบแล้ว ไม่ผ่าน จะทำอย่างไร ก็ต้องยื่นอุทธรณ์ ถ้าเราคิดว่าคุณสมบัติเราผ่านแน่ ๆ ทำไมเราถึงไม่ได้ ก็ไปยื่นอุทธรณ์ ทำได้ 2 ช่องทาง ช่องทางแรกไปยื่นผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th

อีกวิธีการ คือ ไปยื่นยังหน่วยรับลงทะเบียน ทั้งที่คลังจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ ศาลาว่าการเมืองพัทยา ถ้าใครอยู่กรุงเทพฯ ก็ไปที่สำนักงานเขต หรือไปที่ 3 ธนาคาร ออมสิน กรุงไทย ธ.ก.ส. และต้องแก้ไขให้ถูกต้องก่อน 1 พฤษภาคมนี้

สำหรับคนที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ มีบางคนที่เกิดปัญหา จากการเลิกรากันของคู่สามี-ภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนหย่า แม้จะเลิกกันมา 30-40 ปี พอระบบตรวจสอบคุณสมบัติ กลายเป็นว่า คู่สมรสมีรายได้เกินแสน ทำให้คุณสมบัติไม่ผ่าน ซึ่งจะได้ หรือ ไม่ได้ ก็คงต้องอุทธรณ์ให้เจ้าหน้าที่พิจารณา

นักวิชาการแนะไม่ควรลงทะเบียนครั้งเดียว ใช้สิทธิยาว
โดย ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ มองว่า การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ควรเปิดลงทะเบียนบ่อย ๆ การลงแต่ละครั้งไม่ควรปล่อยให้ใช้สิทธิในระยะยาว เพราะบางคนที่ลงทะเบียนผ่าน ในอนาคตอาจจะหลุดออกจากความยากจน ส่วนคนที่ลงทะเบียนไม่ผ่าน เพราะปัจจุบันมีรายได้เกินเกณฑ์ แต่ภายหลังอาจเจอปัญหา แล้วกลายเป็นผู้มีรายได้น้อยก็ได้

แต่สุดท้ายอยากให้รัฐ แก้ปัญหาคนมีรายได้น้อยอย่างจริงจัง เพราะ ปัจจุบันมีหลายโครงการที่มาช่วยคนรายได้น้อย ไม่ใช่แค่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น ซึ่งแต่ละโครงการมีการทุ่มเงินลงไปมหาศาล แต่กลับกลายเป็นว่า คนที่ยังติดอยู่ในกรอบผู้มีรายได้น้อย ยังมีอยู่จำนวนมาก 

แม้ว่าตอนนี้นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะเพิ่งเริ่มเดินหน้าในรอบใหม่ ตัวเลขคนได้รับสิทธิก็ยังไม่นิ่ง ในจำนวน 8 ล้านคน ที่ไม่ผ่านสิทธิปัจจุบัน อาจจะอุทธรณ์กลับมาได้รับสิทธิก็ได้ แต่ก็ต้องจับตาดูอนาคต ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงกับนโยบายนี้อย่างไรบ้าง เพราะการเลือกตั้งกำลังจะเกิดขึ้น รัฐบาลใหม่กำลังจะเข้ามา จึงต้องพุ่งเป้าไปดูนโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้

ตอนนี้ 2 พรรค ชูนโยบายนี้มาเลย ก็มีทั้งพลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ มีทั้งเสียงสนับสนุน และ เสียงวิจารณ์มากมาย ฝั่งพลังประชารัฐ จะเพิ่มให้เป็น 700 บาทต่อเดือน ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจากนโบายปัจจุบัน ถึง 5,836 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนรวมไทยสร้างชาติ มาเหนือกว่า บอกเลย จะให้ 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะต้องใช้งบเพิ่มกว่า 10,000 ล้านบาทต่อเดือน (เทียบกับนโยบายปัจจุบัน ที่ให้เดือนละ 300 บาทเท่ากัน โดยยังไม่รวมสิทธิประโยชน์อื่น ๆ)

อดีต รมว.คลัง แนะควรให้เงินประชาชนไปสร้างรายได้
จากนโยบายนี้ มีเสียงวิจารณ์เหมือนกัน ว่าการนำเงินมาทุ่มแจกให้ใช้แบบนี้ มันไม่ใช่การแก้ปัญหาคนรายได้น้อยที่ยั่งยืน

ผมไปคุยกับศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐศาสตร์มหภาค และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มองว่า หากจะเพิ่มจำนวนเงินให้มากขึ้น ควรเป็นการส่งเสริมให้คนทำเงินไปสร้างรายได้ มากกว่าไปกินไปใช้แล้วหมดไป

ไม่ใช่แค่เสียงวิจารณ์ แต่เสียงสนับสนุนก็มี เพราะหลายคนมองว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็ถือเป็นสวัสดิการพื้นฐานของประชาชน ที่ควรจะได้รับ ถือเป็นการสนับสนุนค่าครองชีพ ช่วยเหลือประชาชน แต่ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นอย่างพอดี ถ้ามากไป หรือ น้อยไป ก็ย่อมมีผลกระทบตามมาทั้งนั้น

ส่วนคุณผู้ชมที่ยังไม่ได้เช็กสิทธิ ว่าตัวเอง อยู่ในกลุ่ม 14 ล้านกว่าคน ที่ได้รับ หรืออยู่ในกลุ่ม 8 ล้านคน ที่พลาดหวัง ก็ต้องรีบตรวจสอบ และดำเนินการให้แล้วเสร็จ ตามกรอบเวลาที่วางไว้ จะได้ไม่พลาดสิทธิที่ควรจะได้รับ