7 มีนาคม 2566 จากกรณีที่ เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดปาดคอ 2 แม่ลูก ที่บ้านพัก ใน ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ส่งผลให้น้องเจษ วัย 9 ขวบ เสียชีวิต ส่วนนางอารียา ผู้เป็นแม่ บาดเจ็บ
คืบหน้าล่าสุด เวลา 10.30 น.พ่อน้องเจษ พร้อมด้วยญาติๆได้จัดเลี้ยงเพลพระ ที่ศาลาธรรมสังเวช วัดสายตรี ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้กับน้องเจษ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีการสวดพระอภิธรรมผ่านไปแล้ว 1 คืน ซึ่งบรรยากาศ ภายในพิธีพ่อน้องเจษ ยังอยู่ในสภาพที่อิดโรย ร้องให้อยู่ตลอดเวลา บริเวณที่ตั้งโรงศพประดับด้วยดอกไม้สดที่สวยงาม พร้อม ลูกฟุตบอล เหรียญทอง เหรียญเงิน ที่ได้จากการแข่งขันฟุตบอล และร้องเท้าสตัด เสื้อใส่เล่นฟุตบอล พร้อมโดยโฉนดที่ดินที่ไปทำบุญมา และรูบิค เนื่องจากว่าน้องเจษ เป็นเด็กที่ชื่นชอบในด้านกีฬาฟุตบอล ภายในงานจัดด้วยความเรียบง่าย โดยมีพวงหรีดจากสำนักงานการศึกษา และคณะครูโรงเรียนต่างๆ พร้อมด้วยญาติๆ ซึ่งศพของน้องเจษ โดยจะทำการเผา ในวันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม 2566 เวลา 16.00 น. ณ.วัดสายตรี ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
จากการสอบถาม พ.ต.อ.วีระวุฒิ ดำสุวรรณ ผกก.สภ.พระพุทธบาท ในเรื่องผลทางนิติวิทยาศาสตร์นั้น ยังไม่มีผลการตรวจออกมา ซึ่งยังคงต้องรออยู่ ส่วนอาการของนางอารียา ยังคงอยู่ในขั้นโคม่า ยังคงรักษาตัวอยู่ใน รพ.ในจังหวัดลพบุรี
ด้านพ่อน้องเจษ เผยว่า ความรู้สึกในการที่สูญเสียลูกชาย ตนเองรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป ตอนนี้เหมือนตัวเองไม่เหลืออะไรเลย อึดอั้นตันใจจนพูดไม่ออก ยังทำใจไม่ได้ ซึ่งก่อนนอนวันเกิดเหตุ ตนเองอยู่คนละห้อง กับภรรยาของตน จากนั้นได้มีการวิดีโอคอลหากัน โดยให้ลูกคุยให้กำลังใจแม่ ซึ่งก่อนเข้านอนเราทั้ง 3 คนก็คุยกันเจอกันอยู่แล้ว แต่จะคุยกันทางโทรศัพท์ แบบว่าคุยเย้าแหย่กัน ซึ่งภรรยาของตนเองได้บอกกับลูกว่า (เสียงเริ่มเครือ) ให้กอดป๊าหน่อย หอมแก้มป๊าหน่อย พอหอมแก้มลูกเสร็จ จากนั้นภรรยาของตนได้เดินเข้ามา ภายในห้อง และเข้าหอมแก้มตนเอง และลูก จากนั้นก็เดินออกไปนอนนอกห้อง ประมาณเที่ยงคืน ตนเองได้ออกจากห้องไปกินโจ๊ก และเห็นว่าภรรยาของตนเองยังไม่นอน จึงถามไปว่าทำไมยังไม่นอน ได้รับคำตอบกลับมาว่า ตัวเองกินโจ๊กอยู่จะนั่งเป็นเพื่อน และตนเองกินโจ๊กเสร็จก็จะเข้านอนแล้ว และเข้าไปถึงครึ่งชั่วโมงตนเองเกิดปวดท้อง จึงได้ออกมาเห็นว่าภรรยาของตนยังไม่นอนอีก จึงถามไปว่าทำไมไม่นอน ได้รับคำตอบว่าเดี๋ยวจะนอนแล้ว แต่ได้เหลือบไปเห็นว่าภรรยาของตนเองได้จดบทสวดมนต์ แผ่กุศลอยู่ และช่วงตอนตี 1 ตนเองยังออกมาดูพบว่าภรรยาของตนนอนแล้ว ตนเองจึงเข้าห้องไปนอน ซึ่งปกติภรรยาของตนเองจะสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน ด้าน พ่อน้องเจษ เผยถึงลูกว่า เกิดชาติหน้าฉันได้ “ขอให้เกิดมาเป็นพ่อลูกกันเหมือนเดิม” และอยากบอกภรรยาว่า “ขอให้สู้ สู้นะ หายมาเมื่อไหร่ จะดูแลเอง หาเลี้ยงเอง”
