ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ประเด็นปลูก "ต้นทองอุไร" ในโครงการปรับภูมิทัศน์คลองพังงา ราคาสุดแพง โดยกำหนดระยะเวลา 1 เดือน
ยังคงเป็นประเด็นร้อน ๆ ที่สังคมให้ความสนใจ ภายหลังเพจเฟซบุ๊ก "ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน" อ้างว่า โครงการปรับภูมิทัศน์คลองพังงา หน้าศูนย์ราชการจังหวัดพังงา จวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และอนุสาวรีย์สามพระยา สายพังงา-ทับปุด หมู่ 3 ตำบลถ้ำน้ำผุด มีการปลูก "ต้นทองอุไร" ราคาต้นละ 6,090.50 บาท โดยมีการปลูกทั้งหมด 37 ต้น รวมเป็นเงินกว่า 225,348.50 บาท ซึ่งเมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามร้านจำหน่ายต้นไม้ พร้อมเปรียบเทียบราคา "ต้นทองอุไร" โดยพบว่า ราคาแตกต่างกันลิบลับ
ขณะที่วันนี้ (7 มี.ค.) ทางเพจยังอ้างข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกจาก "ต้นทองอุไร" แล้ว ยังมีเรื่องชุดน้ำพุ พร้อมอุปกรณ์ครบวงจร มูลค่า 6,000,570 บาท แต่ใช้ได้แค่ 3 วัน ก็ไม่เคยเปิดใช้และติดอีกเลย
ล่าสุด นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณคลองระบายน้ำ พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกำหนดระยะเวลา 1 เดือน เพื่อสรุปว่า โครงการนี้มีความผิดปกติหรือไม่
ขณะที่ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพังงา ชี้แจงว่า ต้นทองอุไร ทั้งหมด 37 ต้น มีการปลูกและเจริญเติบโตเพียง 6 ต้น ที่เหลืออีก 31 ต้น พบว่าชำรุด หรือไม่เจริญเติบโต จึงทำหนังสือแจ้งผู้รับเหมาไป 2 ครั้ง ช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2565 แต่ยังไม่มีการเข้ามาดำเนินการ ส่วนกรณีชุดน้ำพุ ไม่ได้มีความชำรุดตามที่เพจอ้าง แต่พบว่าระดับน้ำในแอ่งน้ำ อยู่ต่ำกว่าระดับมอเตอร์น้ำพุ ทำให้ไม่มีการเปิดใช้เหมือนช่วงที่ผ่านมา
สำหรับชุดน้ำพุ และการปลูกต้นทองอุไร เป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับภูมิทัศน์คลองพังงา ที่ใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท โดยมีการเสนอโครงการและก่อสร้างตามปีงบประมาณ 2564-2565 ซึ่งตรงกับช่วงที่นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา