ถกไม่เถียง : สังคมซ้ำเติม? ญาติคนตายขอพูด หนุ่มบุกยิงวิน จยย.แต่ถูกฟันดับ คาใจอีกฝ่ายเส้นใหญ่

View icon 336
วันที่ 7 มี.ค. 2566 | 16.15 น.
ถกไม่เถียง
แชร์
ถกไม่เถียง - หลังผู้เสียชีวิตเข้าไปเติมน้ำมันในปั๊ม ย่านพระโขนง เกิดมีปากเสียงกับหนุ่มวินรถจักรยานยนต์อริเก่า บีบแตรใส่ ด่าทอกัน ก่อนผู้เสียชีวิตจะขับรถกลับไปหาที่วินรถ จากนั้นยิงปืนใส่ไป 1 นัด แต่พลาดไปโดนขาเพื่อนวินคันอื่นบาดเจ็บ จากนั้นผู้เสียชีวิตได้วิ่งเข้าไปหลบบนตึกร้านขายของชำละแวกใกล้เคียง แก๊งวินรถจักรยานยนต์ไล่ตามขึ้นไปรุมฟันแทงจนแขน-หูซ้ายขาด คอเหวอะถึงหลอดลม ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจในที่สุด

เมื่อเช้าวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายจนมีผู้เสียชีวิต ภายในซอยภูมิจิตร หน้าศาลเจ้าแม่พลับพลึง ถนนพระราม 4 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงเข้าตรวจที่เกิด จุดเกิดเหตุเป็นตึกแถว 2 ชั้น พบร่าง นายไพฑูรย์ ผลอุดม หรือ โอ๊ต อายุ 32 ปี นอนหมดสติ ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีแผลถูกฟันที่ลำคอข้างซ้าย หูข้างซ้ายและแขนซ้ายขาด เจ้าหน้าที่จึงได้ปฐมพยาบาล รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่ นายไพฑูรย์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบปืนไทยประดิษฐ์ขนาด 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และพบมือข้างซ้ายของนายโอ๊ตที่ถูกฟันขาดตกอยู่ หนึ่งในวินรถจักรยานยนต์ที่ปรากฏในคลิปวงจรปิด เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจแล้ว กลุ่มเพื่อนวินได้ไล่ติดตามเข้าไปในซอยที่เกิดเหตุกันทั้งวินรถจักรยานยนต์ รวมทั้งตนด้วย เมื่อไปถึงซอยดังกล่าวไม่พบผู้ที่ลงมือยิงแต่อย่างใด มาทราบอีกครั้งเมื่อรถมูลนิธิมารับมือยิงที่ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากถูกฟันแขนขาด และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ยืนยันว่า ไม่ทราบว่าใครเป็นคนก่อเหตุฟัน แต่กลุ่มเพื่อนวินจักรยานยนต์ที่ตามไปไม่พบตัวผู้ก่อเหตุยิงก็เลยพากันกลับออกมา ยอมรับว่า มีการติดตามไปจริง เพื่อจะไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่และเคยเห็นหน้ากันมาก่อน ส่วนที่คู่กรณีมีเรื่องบาดหมางกันเมื่อคืนหรือช่วงเช้าหรือไม่ ตนไม่ทราบ

นางผ่องศรี แซ่อึ้ง เจ้าของร้านขายของชำที่นายโอ๊ตวิ่งเข้าไปหลบซ่อน เล่าว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะที่ตนเองกำลังทำความสะอาดหน้าร้าน ได้มีชายถืออาวุธปืนวิ่งเข้าไปในร้าน ก่อนจะวิ่งขึ้นไปบริเวณชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องนอนของลูกสาว ตนพยายามถามว่า เข้าไปทำไม แต่ชายคนดังกล่าวไม่ตอบแล้ววิ่งเข้าไป จากนั้นด้วยความกลัวจึงให้ลูกสาวล็อกห้อง ส่วนตนก็วิ่งออกมานอกร้าน และได้ยินเสียงกลุ่มชายฉกรรจ์ปีนอาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดกันขึ้นไปบนชั้น 3 ของบ้าน โดยชายกลุ่มดังกล่าวตะโกนบอกว่า "เอามันให้ตาย" ก่อนที่จะเห็นชาย 3-4 คน วิ่งออกมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก จึงไม่ทันสังเกตว่าชายกลุ่มดังกล่าวมีลักษณะแต่งกายอย่างไร กระทั่งมาทราบภายหลังว่า ชายที่ถือปืนนั้นถูกฟัน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวน นายสุรเชษฎ์ แฉล้มไธสง อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิต เล่าว่า จากการดูภาพกล้องวงจรปิดบริเวณปากซอยที่ นายโอ๊ต วิ่งหลบหนีเข้าไป เห็นวินรถจักรยานยนต์ 2 คน ไล่ตามมา คนหนึ่งได้ถีบรถจักรยานยนต์ของรุ่นน้องนายโอ๊ตที่กำลังออกไปทำงาน และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ส่วนอีกคนก็ขี่รถจักรยานยนต์ตามนายโอ๊ตเข้าไปในซอย ซึ่งตนเชื่อว่าคนที่ฟันนายโอ๊ตมีมากกว่า 1 คน เนื่องจากทั้งแขนขาด หูซ้ายขาด หน้าอกมีแผลถูกฟันฉกรรจ์ และมีแผลที่คอลึกถึงหลอดลม จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องชาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง