สนามข่าว 7 สี - รังสิมันต์ โรม ไปยื่นหนังสือถึง คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ อธิบดี, รองอธิบดี และ ผู้พิพากษา ศาลยุติธรรม ที่เปลี่ยนแปลงการออกหมายจับ สว. ที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือกระบวนการยุติธรรม
นาย รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต. ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้พิพากษาที่ถอนหมายจับ สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ที่เคยถูกอภิปรายในสภาฯ ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดและฟอกเงิน หลังพบว่ามีความผิดปกติในการเปลี่ยน "หมายจับ" และ "หมายค้น" เป็นการ "ออกหมายเรียก" ในวันเดียวกัน เหตุเกิดวันที่ 3 ตุลาคม 2565
นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า มีบุคคล 3 คนเกี่ยวข้อง คือ อธิบดีศาล รองอธิบดี และผู้พิพากษาที่ขึ้นบัลลังก์ในวันนั้น พยานหลักฐานสำคัญคือ เอกสารการแสดงความเห็นของอธิบดีผู้พิพากษา ซึ่งมีคำแนะนำถึงองค์คณะผู้พิพากษาว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลมีชื่อเสียง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงมีคำแนะนำให้ถอนหมายจับ แล้วเปลี่ยนเป็นออกหมายเรียกแทน ซึ่งผิดปกติวิสัย
ขณะที่ทีมสนามข่าว สอบถามความคืบหน้าทางคดี กับ พลตำรวจตรี คมสิทธิ์ รังไสย์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ถึงการดำเนินคดีกับ นาย อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ว่า สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร และมอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 เป็นผู้สืบสวนสอบสวนในคดีนี้ ส่วนที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินคดี และยังไม่สามารถออกหมายเรียกได้นั้น เพราะยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ตามที่อัยการสูงสุดมีคำแนะนำเพิ่มเติม อีกทั้งยังมีการร้องขอความเป็นธรรมในหลายประเด็นให้ตรวจสอบ ทำให้ชุดสืบสวนยังไม่สามารถระบุกรอบเวลาได้ชัดเจนว่า จะดำเนินการออกหมายเรียก หรือ หมายจับได้เมื่อใด
แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่า กระบวนการทั้งหมดไม่ใช่การช่วยเหลือผู้ต้องสงสัยทางคดี แต่เป็นขั้นตอนตามกระบวนการปกติ ของคดีนอกราชอาณาจักรที่ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพื่อให้ได้พยานหลักฐานครบถ้วน และสามารถดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องได้ทุกคน