ห้องข่าวภาคเที่ยง - ประเด็นส่วยวีซ่าทุนสีเทา ที่พบว่ามีตำรวจ ตม. 107 คน เข้าไปเกี่ยวข้อง ในจำนวนนี้มี 3 นายพลรวมอยู่ด้วย ล่าสุดทีมข่าวของเราได้ข้อมูลว่า จะมีการส่งสำนวนให้ป.ป.ช.วันนี้
ต้องบอกว่าคดีนี้บานปลาย มาจากการจับกุมผับจินหลิง ย่านยานนาวา ซึ่งมีการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวจีน และเจ้าของกิจการ ซึ่งพบว่าเป็นกลุ่มนอมินี ที่มีนายตู้ห่าว อยู่เบื้องหลัง จนมีการขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์และดำเนินคดี เมื่อตำรวจตรวจพบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งหลาย รวมถึงนายทุนสีเทาเหล่านั้น เข้ามาอยู่ในประเทศไทยแบบผิดกฎหมาย ด้วยการอาศัยการต่อวีซา โดยการใช้เอกสารอันเป็นเท็จรับรอง ไม่ว่าจะเป็นการ อ้างเป็นอาสาสมัครมูลนิธิ นักเรียนภาษา ไปจนถึงการเข้ามาทำธุรกิจ แต่ทั้งหมดไม่ได้มีกิจกรรมเกิดขึ้นจริง โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเป็นผู้อำนวยความสะดวก หลับหูหลับตาประทับตราวีซาแบบไม่ตรวจสอบเอกสาร และแทบจะไม่มายืนยันตัวตนตามระเบียบ
เมื่อพบช่องทางอย่างนี้แล้ว ตำรวจก็เลยเรียกหัวหน้าสถานีตรวจคนเข้าเมือง 26 จังหวัดเข้ามาสอบสวน และขยายผลต่อเนื่อง ด้วยการลงพื้นที่ไปตรวจเอกสารจริง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของตรวจคนเข้าเมือง 4 และ 5 ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ก็ได้มีการสั่งเพิกถอนรายชื่อโรงเรียนสอนภาษาและมูลนิธิ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวพันกับการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ และการปลอมแปลงเอกสาร โดยมีการลงลายมือชื่อของข้าราชการระดับสูง ทั้งหมดแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเอาผิดกับเจ้าของมูลนิธิหรือโรงเรียนสอนภาษา ซึ่งในบางแห่งพบว่าเป็นเพียงเล้าไก่ หรือบ้านเช่าที่ไม่มีคนอยู่ ที่น่าตกใจคือบางมูลนิธิ คนที่เป็นประธาน เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเสียเอง
เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแน่นหนา ก็มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ที่สถานีตำรวจภูธรเวฬุวัน จังหวัดขอนแก่น โดยจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทั้งสิ้น 107 นาย ในจำนวนนี้เป็นอดีตนายพล และนายพลปัจจุบันรวม 3 นาย โดยเที่ยงวันนี้คณะพนักงานสอบสวน จะนำสำนวนทั้งหมดส่ง ปปช. ให้ดำเนินคดีกับ ตม.ทั้ง 107 นาย ใน 2 ข้อหาหนัก ก็คือเรียกรับผลประโยชน์ตามมาตรา 149 และการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่หรือปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ขั้นตอนจากนี้ไปก็ขึ้นอยู่กับ ปปช. ว่าจะมีการชี้มูล และเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้หรือไม่