ตำรวจและฝ่ายปกครองปราจีนบุรี บุกจับพระสงฆ์ และฆราวาส มั่วสุมในสำนักปฏิบัติธรรมร้างกว่า 20 คน พฤติการณ์ออกตระเวนเรี่ยไรทำบุญ มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 พันบาทต่อวัน
บุกจับแก๊งพระ และฆราวาส มั่วสุมในสำนักปฏิบัติธรรมร้างกว่า 20 คน พฤติการณ์ออกตระเวนเรี่ยไรทำบุญ ( 9 มี.ค.66 ) กลางดึกวานนี้ ร.ต.อ.ธีรพงษ์ เดชอัมพรภิญโญ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี ได้รับแจ้งจากนายจุมพล ดวงสีทา กำนัน ต.นาแขม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่ามีแก๊งเรี่ยไรที่สำนักปฏิบัติธรรมแสงธรรมรัก หมู่ที่ 9 ต.เมืองเก่า องกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ได้ถูกสั่งปิดสำนักไปแล้วเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ยังมีพระสงฆ์และฆราวาสเข้าออกสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าวทุกวัน จึงได้จับตาดูความเคลื่อนไหวและทราบว่ามีพระภิกษุสงฆ์ 8รูป และรถยนต์กระบะจำนวน 6 คันเข้าออกและมีการติดป้ายเรี่ยไรไว้ข้างรถทุกคัน โดยรถกระบะดังกล่าวจะออกจากสำนักปฏิบัติธรรมช่วงเช้าและกลับเข้ามาในช่วงเย็น ซึ่งมีพระสงฆ์นั่งรถกระบะออกไปทุกคัน หลังจากเห็นว่ารถยนต์กระบะ 6 คันกลับเข้ามาภายในสำนักปฏิบัติธรรมแล้ว จึงโทรแจ้งตำรวจและรายงานให้นางวัชราภรณ์ แตงหมี นายอำเภอกบินทร์บุรี ทราบ
นายอำเภอกบินทร์บุรีมอบหมายให้เรืออากาศโทภรสิทธิ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภออาวุโส ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับตำรวจกำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกับได้ประสานไปยังเจ้าคณะอำเภอกบินทร์บุรีซึ่งมอบหมายให้พระอธิการอมร กะตะธัมโม เลขาเจ้าคณะตำบลนาแขมเข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบกลุ่มพระสงฆ์ 8 รูป ฆราวาสทั้งชายและหญิง 12 คน รถยนต์จำนวน 6 คัน พบขวดเหล้าและเบียร์ที่กินหมดแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งพระสงฆ์ อ้างว่าไม่ได้ดื่มเหล้าภายในวัด ขวดเหล้าที่เห็นน่าจะเป็นฆราวาสซื้อมากินเอง พระเลขาได้ตรวจสอบใบสุทธิของพระสงฆ์ดังกล่าวไว้ตรวจสอบ ซึ่งพระสงฆ์ที่อยู่ในสำนักกล่าวว่า เป็นพระสงฆ์จริ งและอ้างว่าถูกนิมนต์ให้นั่งไปกับรถเพื่อออกเรี่ยไรตามพื้นที่ต่างๆจริง และจะยินยอมออกจากพื้นที่เพราะไม่รู้มาก่อนว่าสำนักแห่งนี้ถูกปิดเมื่อถูกนิมนต์มาก็มาตามคำนิมนต์ของพระด้วยกัน ซึ่งบอกว่าพักอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ การออกเรี่ยไรแต่ละครั้งจะมีรายได้วันละประมาณ 3,000 บาทเศษ แต่ไม่มีใครยอมรับว่าเงินจำนวนดังกล่าวที่ได้ออกเรี่ยไรแต่ละวันนั้นอยู่ที่ใดใครเป็นคนเก็บ และยังยอมรับอีกว่าได้ปัจจัยมาก็จะนำไปซื้อกับข้าวมากินภายในสำนักปฏิบัติธรรม ตำรวจจึงนำตัวมาเปรียบเทียบปรับที่ สภ.กบินทร์บุรี
จากการสอบสวน ทุกคนยอมรับว่าเพิ่งมาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมเพราะมีคนบอกให้นำรถมาวิ่งบอกบุญเรี่ยไรสมทบทุนสร้างพระอุโบสถกลางน้ำ ที่ศูนย์วิปัสสนาวัดสว่างอารมณ์ป่าช้าโคกหอม ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งจากการสอบถามเจ้าอาวาสได้รับคำตอบว่าไม่ทราบเรื่อง ขอให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย การออกเรี่ยไรของกลุ่มพระสงฆ์และฆราวาสกลุ่มนี้ไม่มีใครบอกได้ว่าเงินที่เรี่ยไรได้แต่ละวันไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทนั้นนำไปไว้ที่ไหนอาจเป็นไปได้ว่าได้เงินเรี่ยไรมาแล้วนำมาใช้จ่ายกันเอง อยากให้ทางสำนักพุทธหรือพระสงฆ์ที่ทราบข่าวนี้ให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกลุ่มพระสงฆ์และฆราวาสกลุ่มนี้เพื่อไม่ให้มาอาศัยศาสนาหากินแบบนี้ต่อไป พระสงฆ์และฆราวาสทั้งหมดเป็นคนต่างจังหวัดทั้งสิ้น
นายชุมพล ดวงสีทา กำนันตำบลนาแขม กล่าวว่าได้รับร้องเรียนจากผู้ใหญ่บ้านว่า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 รายงานผมให้ไปตรวจสอบมีรถและพระที่สำนักสงฆ์ที่ยกเลิกไปแล้วว่ามีชาวบ้านมามั่วสุมกันที่นั่นประมาณเกือบ 10 คัน ผมเลยแจ้ง นายอำเภอ และผู้กำกับการ สภ.กบินทร์ทราบ และไปตรวจสอบ พบเหตุการณ์ที่มีชาวบ้าน ผู้นำชุมชนร่วมอยู่ประมาณเกือบ 20 คน คอยจับจ้องดูพฤติกรรมที่มาเรี่ยไรเงินของชาวบ้าน อยู่เป็นเดือนแล้ว คืนนี้มีมั่วสุมดื่มสุราในสำนักสงฆ์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมนำไปทำการสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี