“เมียนมา”ส่งตัว “อาผ่า” ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ รางวัลนำจับ 1 ล้านบาทให้ไทย ที่ด่านแม่สาย หลังหนีไปใช้ชีวิตหรูในท่าขี้เหล็ก นานหลายปี

“เมียนมา”ส่งตัว “อาผ่า” ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ รางวัลนำจับ 1 ล้านบาทให้ไทย ที่ด่านแม่สาย หลังหนีไปใช้ชีวิตหรูในท่าขี้เหล็ก นานหลายปี

View icon 1.5K
วันที่ 9 มี.ค. 2566 | 15.44 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
“เมียนมา”ส่งตัว “อาผ่า” ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ รางวัลนำจับ 1 ล้านบาทให้ไทยที่ด่านแม่สาย หลังหนีไปใช้ชีวิตหรูในตัวเมืองท่าขี้เหล็กนานหลายปี

“เมียนมา”ส่งตัว “อาผ่า” ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ รางวัลนำจับ 1 ล้านบาทให้ไทยที่ด่านแม่สาย  (9 มี.ค.66) ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-เมียนมา สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยคณะ ได้ไปต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเมียนมา ซึ่งได้นัดหมายกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) และตำรวจภูธรภาค 5 ในการส่งมอบตัวนายเจษฎา(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคดียาเสพติดตามหมายจับศาลอาญาของไทย และทาง ปปส.ประกาศเป็น 1 ในผู้ต้องหาเป้าหมายใน 2565 โดยประกาศล่าสุดของ ปปส.ตั้งรางวัลนำจับเอาไว้สูงถึง 1 ล้านบาท

สำหรับผู้ต้องหาคือนายเจษฎานั้น ถูกศาลอาญาออกหมายจับที่ จ.177/2559 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติด สภ.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ จับผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 60,000 เม็ด ที่ซุกซ่อนมาในรถยนต์ขณะขับผ่านด่านตรวจ สอบสวนขยายผลทราบว่านายเจษฎาเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวโดยเป็นผู้จ้างวาน จึงได้ขออนุมัติออกหมายจับ แต่นายเจษฎาได้ลักลอบข้ามแดนหลบหนีไปอยู่ในประเทศเมียนมา

ระหว่างที่นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ปปส. ได้เข้าร่วมประชุมทวิภาคีไทย-เมียนมา เรื่องความร่วมมือป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 24 ณ กรุงย่างกุ้ง และที่เมืองปูตาโอ รัฐกะฉิ่น ประเทศเมียนมา ปปส.ไทยได้ขอให้ ปปส.เมียนมา ช่วยติดตามบุคคลตามหมายจับ หลังทราบว่านายเจษฎายังถือบัตรประจำตัวประชาชนไทย อาศัยอยู่ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ลงทุนเปิดสถานบันเทิงชื่อ "ไฟท์บาร์" ในเขตเมืองมะก๋าหัวคำ ห่างจากสะพานพรมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็กแห่งที่ 1 ไม่มากนัก โดยใช้ชื่อในวงการว่า "อาผ่า" และนอนพักที่โรงแรม1G1(วันจีวัน)เป็นประจำ

ปปส.เมียนมาจึงได้เข้าจับกุมนายเจษฎาขณะพักอยู่ในโรงแรมวันจีวัน แต่เนื่องจากนายเจษฎามีความผิดฐานหลบหนีเข้าเมืองผิดกฏหมาย จึงถูกให้จำคุกในจังหวัดท่าขี้เหล็กนาน 6 เดือน กระทั่งพ้นโทษจึงมีการประสานเพื่อส่งตัวมาดำเนินคดีตามหมายจับของไทย ซึ่งตามขั้นตอนนายเจษฎาจะถูกส่งไปดำเนินคดีที่ สภ.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ตามหมายจับ
 
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า การส่งมอบผู้ต้องหาในครั้งนี้เป็นความสำเร็จที่สืบเนื่องจากการประชุมทวิภาคีร่วมกันระหว่างไทยกับเมียนมา ทั้งนี้ตามข้อมูลของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ตอนนี้มีผู้ต้องหาตามหมายจับที่คาดว่าน่าจะหลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านประมาณ 53 รายซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อการติดตามจับกุมตัว และน่าจะทยอยส่งตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยเรื่อยๆ