ปราปต์ปฎล โอดไม่ควรโดนคดีฟอกเงิน

เช้านี้ที่หมอชิต - คดี Forex 3D เงียบหายไปสักพัก แต่ทันทีที่คุณปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดง ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ออกมาติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมพาดพิงถึงผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด ดีเอสไอ ที่เข้าตรวจยึดทรัพย์สินของแฟนสาว และการเปิดเผยว่ามีทนายที่อ้างเป็นที่ปรึกษาเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรียกรับเงินเพื่อวิ่งเต้นคดี ก็ทำให้กระบวนการ ก่อนที่คุณปราปต์ปฎลจะตกเป็นผู้ต้องหา อยู่ในความสนใจอีกครั้ง

ก่อนจะเจาะไปถึงปมเหตุที่ทำให้ คุณปราปต์ปฎล ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีฟอกเงินในคดี Forex 3D ต้องแยกให้เห็นก่อนว่า คดีหลักของ Forex 3D คือคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมี นายอภิรักษ์ โกฎธิ ซีอีโอ Forex 3D เป็นหัวขบวนนำโกง ส่วนคดีที่งอกออกมาจากคดีฉ้อโกง คือคดีฟอกเงิน ซึ่งบรรดาคนเหล่านี้ นำเงินที่ได้จากการฉ้อโกง ไปซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ ไว้

สำหรับ คุณปราปต์ปฎล ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง แต่ที่พัวพันกับคดีนี้ เพราะไปรู้จักและคบหากับ คุณชนกวนันท์ โกฎธิ หรือกู๋กี๋ ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของ นายอภิรักษ์ นั่นทำให้ คุณปราปต์ปฎล ถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ คุณปราปต์ปฎล ขับรถแอสตัน มาร์ติน ของคุณชนกวนันท์ ไปจอดไว้ที่บ้านเพื่อนคุณปราปต์ปฎล ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งรถคันนี้ ดีเอสไอ ติดตามยึดทรัพย์ และดีเอสไอ มองว่า คุณปราปต์ปฎล นำรถไปซุกซ่อน เข้าองค์ประกอบความผิดฐานฟอกเงิน 
 
แต่คุณปราปต์ปฎล พยายามบอกว่า การที่เขาขับรถคุณกู๋กี๋ เพียงครั้งเดียว ไปจอดไว้บ้านเพื่อนที่ราชบุรี และในตอนนั้นคุณกู๋กี๋เอง ก็ยังไม่ถูกดำเนินคดีข้อหาใด ๆ ทั้งสิ้น กลับมีความผิดถึงขั้นส่งผลให้เขาต้องถูกดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินเลยด้วยหรือ

คุณปราปต์ปฎล ให้สัมภาษณ์ในรายการถกไม่เถียงเมื่อวานนี้ โดยย้ำถึงประเด็นนี้ รวมถึงเมื่อจบรายการถกไม่เถียง ก็ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวรายการ เช้านี้ที่หมอชิต ระบุว่า ลำดับเวลาของเหตุการณ์ต่าง ๆ ชี้ชัดว่า ตนไม่ควรถูกดำเนินคดีฟอกเงิน เพราะขับรถแอสตัน มาร์ติน ของกู๋กี๋ไปจอดบ้านเพื่อนที่ราชบุรี เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ซึ่งในช่วงเวลานั้น กู๋กี๋ยังไม่ถูกดีเอสไอ ดำเนินคดีใด ๆ ทั้งสิ้น เพิ่งจะโดนหมายเรียกคดีฉ้อโกง 1 กันยายน 2564 ซึ่งห่างกันถึง 1 ปี และเพิ่งโดนอัยการฝากขังเมื่อ 18 สิงหาคม 2565 หรือปีที่แล้วนี่เอง

ดังนั้นในปี 2563 ที่กู๋กี๋ ยังไม่โดนคดีอะไร ตนก็ไม่รู้หรอกว่า รถแอสตัน มาร์ติน เป็นรถที่เกี่ยวเนื่องจากการกระทำผิด และการขับในขณะที่ไม่รู้เพียงครั้งเดียว กลับทำให้โดนคดีฟอกเงิน

คุณปราปต์ปฎล บอกด้วยว่า หากย้อนดูไทม์ไลน์ในช่วงที่ดีเอสไอยึดรถแอสตัน มาร์ติน ข้อมูลของดีเอสไอ กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงก็ไม่ตรงกัน

เริ่มจากวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 กู๋กี๋ป่วยไส้ติ่งแตก เพื่อนสาวประเภทสองที่อยู่คอนโดเดียวกันชื่อปอนด์ นำไปส่งโรงพยาบาล

8 กรกฎาคม นายปอนด์ ส่งไลน์บอกกู๋กี๋ไม่ต้องกลับมา

8 หรือ 9 กรกฎาคม กู๋กี๋ให้น้องสาวไปดูที่ห้องแต่ถูกเปลี่ยนกุญแจเข้าห้องไม่ได้

10 กรกฎาคม ปราปต์ปฎล ขับรถไปจอดที่ราชบุรี

14 กรกฎาคม ปราปต์ปฎล รับกู๋กี๋ ออกจากโรงพยาบาล ไปแจ้งความถูกลักทรัพย์ในห้อง

15 กรกฎาคม ตำรวจเรียกปอนด์สอบสวน ปอนด์บอกว่าให้ดีเอสไอมายึดทรัพย์สินกู๋กี๋ ไปหมดแล้ว

คุณปราปต์ปฎล บอกว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่เข้าไปยึดทรัพย์สินในวันนั้น คือคุณพงษธร อินอำนวย ซึ่งทุกวันนี้เป็นผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด ดีเอสไอ ที่ติดใจทุกวันนี้อีกเรื่องหนึ่งคือ ไทม์ไลน์จากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่เข้าตรวจยึดทรัพย์สิน ก็ไม่ตรงกันกับข้อมูลตน ซึ่งมีผลต่อคดีที่ตนถูกกล่าวหาคือคดีฟอกเงิน

ขณะที่คุณพงษธร อินอำนวย ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด ดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เช้านี้ที่หมอชิต ว่า ตนรับผิดชอบในคดีที่ 2 ของ Forex 3D คือคดีฟอกเงิน ซึ่งต้องติดตามยึดทรัพย์สินจากความผิดที่เกิดจากการฉ้อโกง หนึ่งในนั้นคือรถยนต์แอสตัน มาร์ติน ของกู๋กี๋

คุณพงษธร บอกว่า ในวันที่เข้าไปค้นห้องพักเพื่อยึดทรัพย์สินของกู๋กี๋ มีทนายของนายปอนด์ โทรศัพท์มาในช่วงบ่ายวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 แจ้งว่า ลูกความของเขาคือนายปอนด์ ซึ่งเป็นผู้ถูกหลอกลงทุนใน Forex3D ด้วย อยากให้ดีเอสไอไปยึดทรัพย์สินอดีตภรรยาของ นายอภิรักษ์ ซึ่งมาอาศัยอยู่ในคอนโดเดียวกับนายปอนด์ โดยนายปอนด์ ใช้ชื่อตัวเองเช่าห้องให้ เมื่อเห็นข่าวการตามยึดทรัพย์สินของดีเอสไอ เกิดความกลัวจึงแจ้งให้ไปยึด ตอน 13.00 น. จึงไปที่คอนโดดังกล่าว ซึ่งนายปอนด์ เป็นผู้เช่าห้อง มีกุญแจ จึงเข้าไปยึดทรัพย์สิน พร้อมกุญแจรถแอสตัน มาร์ติน แล้วในคืนนั้น ก็ติดตามจีพีเอสจากกุญแจรถ ตามไปที่ราชบุรี และยึดรถในเช้าวันที่ 16 กรกฎาคม

ดูจากไทม์ไลน์ของคุณพงษธร กับคุณปราปต์ปฎล แล้วไม่ตรงกัน คุณพงษธร บอกว่า ได้รับโทรศัพท์จากนายปอนด์ วันที่ 15 เวลา 13.00 น. พอ บ่ายกว่า ๆ เข้าไปยึดทรัพย์ ตกกลางคืนก็ตามจีพีเอสรถแอสตัน มาร์ติน ไปที่ราชบุรี และเช้าวันที่ 16 ก็เข้ายึดรถ

ขณะที่คุณปราปต์ปฎล ก็มีไทม์ไลน์อีกชุดที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 8 หรือ 9 ที่ให้น้องของกู๋กี๋ ไปดูที่ห้องแล้วเข้าห้องไม่ได้ จึงให้ คุณปราปต์ปฎล ขับรถแอสตัน มาร์ตินไปไว้ที่ราชบุรี พอวันที่ 10 คุณปราปต์ปฎล ก็ขับรถไปราชบุรี วันที่ 14 คุณปราปต์ปฎล ไปรับกู๋กี๋ ออกจากโรงพยาบาล แล้วพาไปแจ้งความที่ สน. สุทธิสาร วันที่ 15 ตำรวจเรียกปอนด์มาสอบสวน ปอนด์รับว่า ให้ดีเอสไอมายึดไปหมดแล้ว กู๋กี๋จึงแจ้งความปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกับ คุณพงษธร และร้องเรียนที่ดีเอสไอด้วย แต่ว่าคดีที่แจ้งความคุณพงษธร และร้องเรียนคุณพงษธร ก็สิ้นสุดหมดแล้ว โดยที่คุณพงษธร ไม่มีความผิด