ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ คุณมะลิ แซ่ฉิ่น มีรายงานสรุปความคืบหน้าส่วยวีซาทุนสีเทา ที่มีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องถึง 107 นาย ในจำนวนนี้มี 3 นายพล รวมอยู่ด้วย ล่าสุด สำนวนการสอบสวนถูกส่งให้ ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว จะดำเนินคดีกันอย่างไร การป้องกันอาชญากรข้ามชาติควรวางมาตรการแบบไหน ติดตามจากรายงาน
กองสำนวนการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง 107 นาย เกี่ยวข้องกับการต่อวีซาให้กลุ่มทุนสีเทา ถูกรวบรวมส่งต่อให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. พิจารณาชี้มูลความผิด 2 ข้อหาหนัก ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์ และ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือทุจริต เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยขั้นตอนต่อไปจากนี้ ป.ป.ช. จะพิจารณาและหารือร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสั่งไต่สวนต่อไป
เนื้อหาในสำนวนการสอบสวนกว่าแสนแผ่นที่ถูกส่งไปยัง ป.ป.ช. เป็นการขยายผลจากการจับกุมผับจินหลิง ย่านยานนาวา เมื่อช่วงปีที่แล้ว ซึ่งมีการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวจีน และเจ้าของกิจการกลุ่มนอมินี ที่มี นายตู้ห่าว อยู่เบื้องหลัง จนนำไปสู่การยึดทรัพย์และดำเนินคดี ก่อนจะพบรูปแบบการสยายปีกของทุนสีเทา ที่อาศัยการต่อวีซา ใช้เอกสารอันเป็นเท็จรับรอง ไม่ว่าจะเป็นการอ้างอิงว่าเป็นอาสาสมัครมูลนิธิ นักเรียนภาษา ไปจนถึงการเข้ามาทำธุรกิจ โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเป็นผู้อำนวยความสะดวก หลับหูหลับตาประทับตราวีซาแบบไม่ตรวจสอบเอกสาร
เรื่องนี้ยิ่งสาว ยิ่งลึก ยิ่งเจาะข้อมูลก็ยิ่งพบความผิดปกติในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำไปสู่การสอบสวนผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 400 ปาก เกี่ยวพันถึงเจ้าหน้าที่ในหลายพื้นที่ คดีนี้จึงมีการแบ่งสำนวนการสอบสวนคดีออกเป็นส่วน ๆ รวมกว่า 8,000 คดี อีกทั้งในสำนวนคดีเหล่านี้ มีเพื่อนร่วมรุ่นของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระดับนายพล ที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เคยออกมาแฉรวมอยู่ด้วย
แม้คดีเอาผิดคนทุจริตจะเดินหน้าถึงมือ ป.ป.ช. แล้ว แต่ทีมสอบสวนยังต้องเผชิญกับชะตากรรม ถูกร้องเรียนด้วยบัตรสนเท่ห์จน ผบ.ตร. ตั้งจเรตำรวจเป็นหัวหน้าคณะทำงานสอบสวน ซึ่งชุดทำงานเชื่อว่า เป็นเพราะคดีพัวพันถึงตำรวจจำนวนมาก อีกทั้งยังมีระดับนายพลรวมอยู่ด้วย ทำให้มีการสู้กลับ แต่มั่นใจพยานหลักฐานในการเอาผิด
สำหรับคดีส่วยวีซาจากทุนสีเทา เป็นประเด็นที่ คอลัมน์หมายเลข 7 เกาะติดมากว่า 5 เดือน กระทั่งถึงบทสรุปเบื้องต้น
จากนี้ต้องรอดู ป.ป.ช. จะชี้มูลอย่างไร และเรื่องที่ยังคาราคาซังเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับข้าราชการระดับสูงของฝ่ายปกครอง ที่เข้าไปพัวพันกับการปลอมแปลงเอกสาร จะเดินหน้าอย่างไร เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจต้องติดตามขยายผล ไม่อย่างนั้นอาจถูกมองได้ว่า ไม่มีความจริงจังในการปราบปรามทุจริต
