ข่าวเด็ด 7 สี - ขยี้ข่าวใหญ่วันนี้ก็เด็ดไม่แพ้กัน เรื่องของแชร์ Forex-3D และการฟอกเงิน แม้ว่าจะมีผู้ต้องหาคนสำคัญถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ มีการไล่อายัดทรัพย์สินต่าง ๆ ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้งในสัปดาห์นี้
ปราปต์ปฎล แฉ ทนาย ฮ. แจงเรียกเงินเคลียร์คดี DSI
เพราะดาราชื่อดังอย่าง ปราบต์ปฎล แฟน "จิ๊กกี๋" ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนี้ ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของนายอภิรักษ์ ผู้ต้องหาก่อตั้งแชร์ Forex-3D โดยเขาเป็น 1 ใน ผู้ต้องหาคดีฟอกทรัพย์ที่ได้จากแชร์ Forex-3D ออกมาแฉว่า มีที่ปรึกษาของเลขานุการรัฐมนตรีดัง ตบทรัพย์จำนวนหลัก 10 ล้านบาท แลกกับการช่วยเหลือคดีให้ กี๋ ได้ประกันตัว งานนี้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ดาหน้าออกมาชี้แจงกันพัลวันว่าไม่เกี่ยวข้อง
เขาเล่าว่า การเรียกเงินหลัก 10 ล้านบาท ครั้งแรกมีการอ้างว่า "เพื่อจัดการกับผู้ใหญ่" โดยมีคำพูดบาดลึกที่ว่า "ไม่ว่าจะผิดหรือถูก มันมีราคาของความยุติธรรมอยู่" และครั้งที่ 2 ที่คุยกันทางแชตไลน์ ก็ยังแนะนำวิธีการเดิม พร้อมเสนอตัวเลขเงินเท่าเดิม
ฟางเส้นสุดท้ายของเขา คือ การถูกดำเนินคดีเรื่องการฟอกเงินจากการเคลื่อนย้ายรถหรู มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท หลังไปคุยกับที่ปรึกษาคนนี้เพียงไม่ถึงเดือน เหมือนเป็นการกลั่นแกล้งยัดคดี ดึงคดีไม่ส่งฟ้องนานข้ามปีจนงานหดหาย อีกทั้งยังไม่สามารถประกันตัวจิ๊กกี๋ออกมาได้ จนเขารู้สึกว่าหลังชนฝา ตัดสินใจ ดับเครื่องชนอย่างที่เห็น
หลัง ปราบต์ แถลงแฉไปได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง การ์ตูน เพื่อนสนิทของจิ๊กกี๋ แฟนของปราบต์ และ ทนายเฮง ปรึกษาของเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ดาหน้าออกมาชี้แจง ยอมรับคุยจริง แต่เป็นเรื่องค่าทนาย และเงินที่ใช้ประกันตัว ไม่ได้เรียกเงินหลักสิบล้านบาท ตาม ที่มีการกล่าวหา
หากนำคำพูดของทั้งสองฝ่ายมาเปรียบเทียบกัน ความเหมือน คือ มีการนัดพูดคุยกันเรื่องคดีของจิ๊กกี๋ ที่ร้านอาหารของโรงแรมกัน 4 คน คือ ปราบต์ การ์ตูนกับแฟน และทนายเฮง
แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือ ปราบต์ ยืนยันว่า บนโต๊ะอาหารมีการเรียกเงินจำนวนหลักสิบล้านบาท เพื่อนำไปจัดการกับผู้ใหญ่ ทำให้คดีของจิ๊กกี๋อ่อนรับโทษน้อย ๆ หรือได้ประกันตัว
แต่ฝั่งของทนายเฮง และ การ์ตูน ก็ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่ได้มีการเรียกเงินล้มคดี 10 ล้านบาท แต่มีการคุยกันเรื่องกรอบการวางเงินประกันตัว และเงินที่ต้องใช้เป็นค่าทนายในการสู้คดี มูลค่าประมาณหลักล้านบาท ไม่มากถึง 10 ล้านบาท
ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ทำให้ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งยกเลิกตำแหน่งที่ปรึกษาทั้งหมด ถ้าใครยังแอบอ้างก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง
ปราปต์ปฎล เชื่อถูกดำเนินคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ผมยังคุยกับ ปราบต์ แบบส่วนตัว เรื่องคดีฟอกเงิน ที่กำลังเตรียมจะถูกส่งฟ้อง เขายืนยันว่า คดีนี้ DSI ทำไม่ถูกต้อง ตั้งแต่ขั้นตอนการไปอายัดทรัพย์ของจิ๊กกี๋ ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเจ้าตัวยังไม่ถูกแจ้งข้อหาในวันที่เข้าตรวจยึด อีกทั้งคนชี้เป้าของดีเอสไอ ก็เป็นคู่กรณีที่กำลังมีเรื่องฟ้องร้องเรื่องทรัพย์สินกัน
ผอ.เค แจงละเอียดขั้นตอนอายัดทรัพย์
เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ผมยังได้ไปคุยกับคุณพงษธร อินอำนวย ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด DSI ในฐานะเลขานุการคดี Forex-3D เขาก็ยืนยัน ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ว่ากันตามพยานหลักฐาน ไม่มีการกลั่นแกล้ง อีกทั้งประเด็นนี้ ก็มีทั้งคณะกรรมการของดีเอสไอและป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว ผลออกมาเหมือนกันคือ ไม่มีความผิด จึงไม่อยากให้ดิสเครดิตกันแบบนี้
คดีนี้มีอีกจุดที่น่าสนใจคือ ผู้อยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษาบุคคลระดับสูง ในกระทรวงยุติธรรม ควรรับคดีที่อาจเกี่ยวพันกับการใช้อำนาจของหน่วยงานในสังกัดหรือไม่ เพราะสุดท้ายหากคิดไม่ซื่อ ก็อาจจบที่การแสวงหาประโยชน์ ด้วยการวิ่งเต้นคดี จนทำให้ ความยุติธรรม กลายเป็นเรื่องที่มีราคาต้องจ่าย ส่วนกรณีนี้มีการกระทำผิดจริงหรือไม่ ก็ควรมีการตั้งกรรมการสอบสวน เพื่อเกิดความกระจ่าง ขณะที่ความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับปราบต์ มีรายงานจากดีเอสไอว่า สัปดาห์หน้าหากพยานหลักฐานพร้อม อาจมีการส่งฟ้อง ปราบต์ ในคดีฟอกเงินตามที่เจ้าตัวรอคอยอยู่
