สนามข่าว 7 สี - ตำรวจจับกุมโจรวิ่งราวทรัพย์ 2 คดีติด โดยโจรรายแรกเป็นคนขี่รถไรเดอร์รับส่งอาหารติดหนี้พนัน ชักหน้าไม่ถึงหลัง ผันตัวเองกลับไปประกอบอาชีพเดิม คือ โจรวิ่งราวทรัพย์ แต่ครั้งนี้ระมัดระวังตัวมากขึ้น ก่อเหตุเฉพาะกลางคืน และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีตามซอยเพื่อหลบเลี่ยงกล้องวงจรปิด ส่วนโจรอีกรายพบประวัติก่อคดีอย่างโชกโชน
ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางซื่อ นำกำลังเข้าจับกุม นายนิรัตน์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลฯ ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ในเวลากลางคืน ได้ที่ห้องพักหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พร้อมกับยึดเสื้อผ้าและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในวันก่อเหตุ
ชุดสืบสวนตำรวจ สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า ขณะกำลังเดินอยู่บนทางเท้าช่วงเวลากลางคืน และสะพายกระเป๋าไว้ด้านข้างฝั่งที่ติดกับถนน ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็ว และกระชากกระเป๋าไปได้ โดยภายในกระเป๋าสะพายมีเงินสดอยู่ 1,500 บาท โทรศัพท์มือถือ กุญแจรถยนต์ รวมทั้งเอกสารสำคัญ
ต่อมาชุดสืบสวนได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยจุดเกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ จึงไล่ตรวจสอบในพื้นที่ใกล้เคียงจนพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ขี่หลบหลีกกล้องวงจรปิดลัดเลาะไปตามซอย และไม่จอดติดไฟจราจรตามแยกต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดโดยรอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไปเรื่อย ๆ ก็พบว่าจุดสุดท้ายอยู่ที่ หมู่บ้านเอื้ออาทร จังหวัดปทุมธานี จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ก่อนเข้าจับกุมตัว
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับว่า ประกอบอาชีพไรเดอร์รับส่งอาหาร แต่เนื่องจากติดหนี้พนัน เลยชักหน้าไม่ถึงหลัง มีเงินไม่พอไปจ่ายหนี้ จึงตัดสินใจกลับไปก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์อีก หลังเมื่อปี 2559 เคยก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ กระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัว และถูกส่งไปจำคุกที่เรือนจำฯ พอพ้นโทษออกมาก็ไปหางานสุจริตทำ ครั้งนี้ได้ก่อเหตุในพื้นที่วังทองหลาง สายไหม และ บางซื่อ โดยเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น ก่อเหตุเฉพาะกลางคืน และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีตามซอยเพื่อหลบเลี่ยงกล้องวงจรปิด เงินและสิ่งของมีค่าได้นำไปขายแล้ว เงินที่ได้ก็นำไปใช้หนี้พนัน ส่วนเอกสารสำคัญ และกุญแจรถ ได้นำไปโยนทิ้ง
ส่วนคดีที่ 2 ตำรวจ สน.บางเขน เข้าจับกุม นายสุชาติ อายุ 47 ปี คาห้องพักในหมู่บ้านเอื้ออาทรสายไหม หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์กระชากโทรศัพท์มือถือผู้เสียหายสาวที่นั่งอยู่ที่ป้ายรอรถประจำทาง บริเวณปากซอยพหลโยธิน 40 ตอนกลางดึกวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์กระชากโทรศัพท์มือถือลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง จนเคยถูกจับคดีวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ สน.โชคชัย มาก่อน แต่เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาก่อเหตุซ้ำอีก
