ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานีอุตุนิยมวิทยาน่าน ยังประกาศเตือนพายุฤดูร้อนในพื้นที่จังหวัดน่านต่อเนื่องอีก 2 วัน ช่วงวันที่ 13-14 มี.ค. 2566 โดยสภาพอากาศขณะนี้ยังปกคลุมไปด้วยเมฆฝน และหลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมา
ขณะที่วานนี้ (12 มี.ค.66) ลมพายุฝนได้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนประชาชน ที่บ้านนากึ๋น หมู่ 5 ต.บ่อเกลือเหนือ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ถูกลมพายุโหมกระหน่ำ พัดหอบหลังคาสังกะสี ปลิวหายไปทั้งแถบ ที่บ้านเปียงซ้อ หมู่ 4 บ้านสะจุก หมู่ 7 และบ้านสะเกี้ยง หมู่ 8 ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ นอกจากลมพายุฝนแล้ว ยังมีลูกเห็บจำนวนมากตกลงมา จนปกคลุมไปทั่วบริเวณภูเขา หลังคาบ้าน พื้นถนนจนขาวโพลน คล้ายหิมะ แต่ไม่มีรายงานได้รับความเสียหาย หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
อย่างไรก็ตาม พายุลูกเห็บครั้งนี้ ยังได้สร้างความตื่นตระหนก แก่ผู้โดยสารสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD-9122 เป็นเครื่องบิน Airbus A320 บรรทุกผู้โดยสารกว่า 200 ชีวิต ขึ้นบินจากท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อเวลา 17.25 น. ปลายทางท่าอากาศยานน่านนคร กำหนดการถึงเวลา 18.45 น. ระหว่างเครื่องบินเข้าเขตจังหวัดน่าน ได้เจอกับพายุฤดูร้อนและลูกเห็บตกกระหน่ำพอดี ส่งผลให้เครื่องตกหลุมอากาศ
ผู้โดยสารบนเครื่องบินรายหนึ่ง เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกในเที่ยวบินฝ่าพายุลูกเห็บว่า ขณะเกิดเหตุการณ์ทุกคน 200 ชีวิต ต่างตกใจ หลายคนพากันร้องไห้ ขณะที่กัปตันนำเครื่องบินวนอยู่เหนือจังหวัดน่าน เพื่ออ้อมหนีออกจากพายุ และลูกเห็บที่ตกใส่เครื่องอย่างบ้าระห่ำ และเครื่องบินก็ตกหลุมอากาศ
“กัปตันประกาศแจ้งว่าไม่สามารถนำเครื่องลงได้ นาทีนั้นเครื่องก็สั่นเพราะตกหลุมอากาศ แล้วกัปตันก็แจ้งว่าจะนำเครื่องไปลงที่สนามบินเชียงใหม่ก่อน เพื่อให้พายุผ่านไปก่อน ส่งผลให้ผู้โดยสารกว่า 200 ชีวิต ต้องตกค้างอยู่ที่สนามบินเชียงใหม่ และอีกกว่า 200 ชีวิต ตกค้างอยู่ที่สนามบินน่านนคร ที่รอโดยสารเที่ยวบินดังกล่าวในเที่ยวบิน FD-9123 ในเวลา 19.15 น. ปลายทางท่าอากาศยานดอนเมือง ท่ามกลางความใจหายใจคว่ำ จนกระทั่งพายุฝนลดระดับลง ก็บินกลับสนามบินน่านนครด้วยความปลอดภัย ในช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ผู้โดยสารทุกคนพากันปรบมือ ขอบคุณกัปตัน ที่ตัดสินใจนำเครื่องไปจอดสนามบินเชียงใหม่ และพาผู้โดยสารกลับอย่างปลอดภัย” ผู้โดยสารบนเครื่องบิน กล่าว
