อดีต ผบ.ตร. โต้กลับคดี สว.อุปกิต

View icon 219
วันที่ 14 มี.ค. 2566 | 07.10 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - อดีต ผบ.ตร. โต้ไม่เคยได้รับการประสานจาก นายอุปกิต ให้เป็นพยานคดีฟ้อง นายอัจฉริยะ ยืนยันจะไม่ขอเกี่ยวข้องกับคดีหมิ่นประมาทที่ฟ้องกันในขณะนี้
   
พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับทีมสนามข่าว 7 สี หลังทราบข่าวว่า นายอุปกิต จะขอให้เป็นพยานในคดีฟ้องหมิ่นประมาท นายอัจฉริยะ โดยบอกรู้สึกตกใจที่จู่ ๆ ก็มีรายชื่อ 1 ในพยาน เพราะไม่ได้สนิทสนมกันมาก่อน เคยเจอกันที่รัฐสภา 1-2 ครั้ง เท่านั้น จึงไม่เข้าใจจะเอาตนเองไปเป็นพยานในคดีเพื่อเบิกความเรื่องอะไร ที่สำคัญ นายอุปกิต ก็ไม่เคยประสานร้องขอมาก่อน ยืนยัน จะไม่ไปเป็นพยานให้ใครทั้งนั้น เพราะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง จึงไม่อยากเป็นคู่กรณีกับคนอื่น

มีรายงานว่า นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของนายอุปกิต เผยว่า การไลฟ์ของ นายอัจฉริยะ บางครั้งมีการนำภาพของ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ มาประกอบอ้างอิง ทีมกฎหมายจึงต้องนำสืบข้อเท็จจริงต่าง ๆ จึงเห็นควรให้มาเป็นพยานเบิกความต่อศาลด้วย และคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อตัวของ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ ที่ถูกกล่าวพาดพิงด้วย ทีมกฎหมายจึงได้บรรจุชื่อ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ ไว้ในบัญชีพยาน โดยยังไม่ได้แจ้งให้เจ้าตัวทราบเพราะติดต่อไม่ได้ แต่หากพยานท่านใดไม่ประสงค์จะขึ้นเบิกความ ก็สามารถถอนรายชื่อออกไปจากบัญชีพยานได้

ด้าน พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงเรื่องการเปิดเผยเอกสารของ "สารวัตรสืบสวน สน.พญาไท" ทั้ง 7 แผ่น โดยบอกได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติตรวจสอบเรื่องนี้ เน้นหาข้อเท็จจริงเรื่องการประสานปฏิบัติระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดว่ามีปัญหาหรือไม่ โดยจะไม่ก้าวล่วงดุลยพินิจศาล

ส่วนประเด็นการแต่งตั้งโยกย้ายสารวัตรตำรวจนายดังกล่าว จากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ไป สน.พญาไท ส่วนตัวเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะอยู่ในสังกัดเดิม และเห็นว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินคดีแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง