สนามข่าว 7 สี - นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยังคงเดินหน้าออกมาขับเคลื่อนคดีของ สว.อุปกิต หลังจากพบว่าคดีไม่มีความคืบหน้า โดยเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีนี้ ขณะที่ รองโฆษกอักการสูงสุด ยืนยันว่าคดีไม่ล่าช้า
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหนังสือขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนที่ทำคดีของ สว.อุปกิต หลังคดีมีความล่าช้า ผ่านมาเกือบ 2 เดือน ยังไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับ
นายอัจฉริยะ บอกว่า ต้องการให้เปลี่ยนผู้รับผิดชอบคดี จากเดิมคือ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 หัวหน้าพนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้ ไปอยู่ในความดูแลของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทน เพราะมองว่า หัวหน้าพนักงานสอบสวนนายดังกล่าว ไม่เคยทำคดียาเสพติดที่สำคัญมาก่อน จึงไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ทำให้ผ่านมาเกือบ 2 เดือน ก็ยังไม่มีความคืบหน้า มองว่าหากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาทำคดีนี้แทน ก็จะไม่มีตำรวจนายใดเข้ามาแทรกแซงคดีได้
ส่วนกรณีที่ สว.อุปกิต ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด เพื่อขอให้แปลภาษาเมียนมาในเอกสารหลักฐานสำคัญที่มีอยู่นับพันแผ่นให้เป็นภาษาไทย ทำให้เกิดความล่าช้า นายอัจฉริยะมองว่า เป็นข้ออ้างในการประวิงเวลาทำให้คดีล่าช้า ถ้ามีเอกสารจริงตัวเองยินดีรับไปจ้างแปลให้
ทั้งนี้ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เป็นผู้รับเรื่อง บอกว่าจะนำเสนอคำร้องถึงอัยการสูงสุด พิจารณาสั่งการ ส่วนความคืบหน้าคดี หลังจากอัยการสูงสุดรับคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะนี้ผ่านมาประมาณเดือนกว่า จึงถือว่าคดีไม่ได้ล่าช้า
