ฟ้องมา-ฟ้องกลับ ชูวิทย์ ไม่กลัวภูมิใจไทย

View icon 73
วันที่ 17 มี.ค. 2566 | 06.26 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตอบโต้ คุณศุภชัย ทันควัน อัดคลิปลงโพสต์ในเฟซบุ๊ก ดุเดือด พร้อมระบุว่า ฟ้องมาฟ้องกลับ อีกทั้งท้าให้ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทย เปิดหน้ามาสู้แบบลูกผู้ชาย อย่าใส่ชุดฟุตบอลอำพราง 

ส่วนหนึ่งในคลิปความยาว 6 นาทีกว่า ของ คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่โพสต์ตอบโต้ คุณศุภชัย ใจสมุทร สส. พรรคภูมิใจไทย ซึ่งแถลงพรรคภูมิใจไทย จะฟ้อง คุณชูวิทย์ และจะให้ผู้สมัคร สส. ของพรรค 400 เขต ไปแจ้งความดำเนินคดี คุณชูวิทย์

คุณชูวิทย์ โพสต์ทั้งคลิปนี้ และแกะทุกตัวอักษรที่พูดไว้ในคลิปมาไว้ในโพสต์ด้วย เนื้อหาโดยสรุป ชี้ให้เห็นว่า การที่ สส. ย้ายพรรคไปมา เกิดจากการที่พรรคการเมืองสะสมทุนจากการบริหารงาน ทุจริตในโครงการของรัฐ เพื่อนำมาใช้ในการเลือกตั้ง อย่างไร้อุดมการณ์หนักกว่าเดิม คือ การสมคบคิด วางแผน ครอบงำ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือผ่านระบบเลือกตั้ง หลังการเลือกตั้ง จะเห็นการตระบัดสัตย์ของนักการเมือง เช่น บอกว่า "ไม่ร่วมผสมพันธุ์กับเผด็จการ" แต่ภายหลังยอมเสียอุดมการณ์ไปร่วมด้วย เพียงเพื่อจะได้เข้าไปเป็นฝ่ายบริหาร เสมือนหนึ่งการหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ ทั้งนี้ เพื่อจะได้ทุจริต สะสมทุนทางการเมือง และกลับมาเป็นรัฐบาลอีก

โพสต์คุณชูวิทย์ ระบุด้วยว่า การต่อสู้ของตน ทำในนามประชาชน เพื่อให้พรรคการเมืองได้เรียนรู้ว่า ประชาชนไม่ใช่เครื่องมือของพรรคการเมืองอีกต่อไป ยกตัวอย่าง กัญชาเสรี เป็นเรื่องร้ายแรงที่พรรคภูมิใจไทย ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด ด้วยความไม่ระมัดระวัง และเร่งรีบ เพื่อนำผลงานไปใช้ในการหาเสียง กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ ที่จะรักษาโรคได้ทุกโรค แต่กลับมีโทษมหันต์ โดยไม่มีการควบคุม มีเพียง "กฎกระทรวง" เท่านั้น ผลลัพธ์ของกัญชา สะท้อนไปถึงพ่อแม่ที่มีลูก เด็กและเยาวชนเข้าถึงกัญชาได้ง่าย ตนเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าจำเป็นต้องควบคุมกัญชาที่อ้างว่า "เพื่อการแพทย์" แต่ไม่ได้ให้แพทย์เป็นผู้ออกใบสั่งยา มีการซื้อขายอย่างเสรี ไร้การควบคุมอย่างจริงจัง อีกทั้ง พรบ.กัญชากัญชง ยังไม่ผ่านสภา แสดงให้เห็นว่ามีพรรคการเมืองในสภาที่ไม่เห็นด้วยต่อร่างกฎหมายดังกล่าว การรณรงค์ของตนในนามประชาชน ที่ต่อต้านกัญชาเสรี ย่อมเป็นสิทธิที่รับรองในรัฐธรรมนูญ

ทั้งเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่มีการเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้รัฐแตกต่างกันถึง 1,000 เท่า โดยบริษัทที่ถูกกีดกัน เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่รัฐ 70,000 ล้านบาท ภายใน 30 ปี แต่บริษัทที่ชนะการประมูล กลับเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่รัฐเพียง 7,000 ล้านบาท ภายใน 30 ปี ย่อมแสดงให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลเป็นอย่างยิ่ง และทำให้รัฐสูญเสียประโยชน์ที่ควรจะได้ถึงกว่า 60,000 ล้านบาท ที่ไม่อาจทราบได้ว่า ผลประโยชน์เหล่านั้นไปตกอยู่กับผู้ใด ในการประชุม ค.ร.ม. ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ให้ทันก่อนมีการยุบสภา ทั้ง ๆ ที่มีการฟ้องร้องอยู่ที่ศาลปกครอง 2 คดี

พรรคภูมิใจไทย มีการจัดตั้งในรูปแบบพรรคการเมือง มีการหาเสียง เป็นการสื่อสารถึงประชาชน การที่ประชาชนโต้ตอบสื่อสารกลับ ย่อมเป็นสิทธิอันชอบธรรม ตนไม่ได้นำเรื่องส่วนตัวมากล่าวโจมตี ตรงกันข้าม พรรคภูมิใจไทยและสื่อพันธมิตรอย่างผู้จัดการ ได้ใช้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของตนมาโจมตี อย่างในการแถลงข่าวของพรรคภูมิใจไทย

พฤติกรรมการฟ้องร้องประชาชนของพรรคภูมิใจไทย ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เป็นการกลั่นแกล้งประชาชนเพียงคนเดียว โดยการขู่ว่า บรรดาผู้สมัคร สส. ของตัวเองรุมกลั่นแกล้ง ใช้การฟ้องร้องเพื่อให้ประชาชนอย่างตนเดือดร้อน เป็นการกระทำที่ส่อให้เห็นความไม่สุจริต ทั้งนี้ เพื่อให้ตนเกรงกลัว โดยใช้ช่องทางของกฎหมายปิดปาก ตนยินดีที่จะสู้ตามกระบวนการ ใช้วิถีทางประชาธิปไตยในการต่อสู้ ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นว่า การที่ประชาชนไม่เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคการเมืองย่อมเป็นสิทธิอันชอบธรรม หากประชาชนคนใดเห็นด้วย สามารถโหวตให้พรรคภูมิใจไทย และหากใครไม่เห็นด้วย ก็สามารถไม่โหวตให้พรรคภูมิใจไทยได้

ก่อนหน้าที่จะโพสต์คลิปนี้ คุณชูวิทย์ ได้โพสต์อีกโพสต์หนึ่ง เรื่องศักดิ์ศรีของประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีอยู่ข้อความหนึ่ง ที่คุณชูวิทย์ระบุไว้ว่า "เมื่อฟ้องมา ผมก็ฟ้องกลับ ว่ากลั่นแกล้งขัดขวางไม่ให้ประชาชนได้ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ และกลั่นแกล้งให้ได้รับโทษทางอาญา"

ทั้งนี้ ก่อนที่คุณชูวิทย์จะโพสต์ทั้ง 2 โพสต์นี้ ทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิตสัมภาษณ์พิเศษ คุณชูวิทย์ 1 ในสิ่งที่ คุณชูวิทย์ พูดถึง คือ เบื้องหลังของ คุณอนุทิน และ คุณศักดิ์สยาม และพรรคภูมิใจไทย คือ คุณเนวิน จึงอยากให้ คุณเนวิน เปิดหน้าออกมา อย่าอยู่เบื้องหลังแบบนี้ อย่าไปใส่ชุดฟุตบอลอำพรางไว้