"อุปกิต" สว.แถลงทั้งน้ำตา ตกเป็นเหยื่อการเมือง ไม่เคยเอี่ยวยาเสพติด จ่อฟ้องคนที่ทำให้เสียหาย

"อุปกิต" สว.แถลงทั้งน้ำตา ตกเป็นเหยื่อการเมือง ไม่เคยเอี่ยวยาเสพติด จ่อฟ้องคนที่ทำให้เสียหาย

View icon 432
วันที่ 17 มี.ค. 2566 | 12.50 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สว.อุปกิต แถลงทั้งน้ำตา ตกเป็นเหยื่อการเมือง ยกมือท่วมหัวสาบาน ไม่เคยเอี่ยวยาเสพติด ใครใส่ร้ายขอให้มีอันเป็นไป เชื่อทำเป็นกระบวนการ จับมือ “ก้าวไกล” สร้างหลักฐานเท็จ ยันไม่ได้เป็นนายทุน รทสช. ให้เช่าตึกถูกต้องตามกฎหมาย

นายอุปกิต ปาจรียางกูร สว. แถลงตอบโต้กรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.ก้าวไกล กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน และยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ โดยนายอุปกิต แถลงทั้งน้ำตาด้วยความอัดอัน ว่าที่ออกมาชี้แจงช้าก็เพราะกลัวจะเสียรูปคดี แต่ที่ต้องออกมาชี้แจงก็เพราะคำกล่าวหาของนายรังสิมันต์ และ สื่อมวลชนบางสำนัก สร้างความเข้าในผิดจนเกิดความเสียหาย แต่จะไม่ชี้แจงอะไรมาก เพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติแล้ว และจะไม่ละเมิด ก้าวล่วง 

อุปกิต สว.แถลงทั้งน้ำตา ตกเป็นเหยื่อการเมือง ไม่เคยเอี่ยวยาเสพติด

การแถลงข่าววันนี้ (17 มี.ค.66)  นายอุปกิตเริ่มชี้แจงจากกรณีที่ลูกเขยถูกจับในคดีค้ายาเสพติดและฟอกเงินและเจ้าหน้าที่อ้างว่ามีพฤติการณ์หลบหนี แต่จริงๆ แล้วยังคงพักอาศัยอยู่ที่บ้านในซอยสุขุมวิท 69 และถูกจับกุม ในบ้านหลังดังกล่าว เมื่อนายอุปกิตพูดถึงเรื่องดังกล่าวก็ถึงกับร้องไห้ออกมา เพราะรู้สึกสงสารหลาน ย้ำด้วยว่าหากตนเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างที่ถูกกล่าวหา ลูกเขยคงไม่ต้องติดคุกนานถึง 7 เดือน คงช่วยเรื่องคดีความตั้งแต่ต้น

ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าถือหุ้นในบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป จำกัด นายอุปกิต ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ไม่ได้ถือหุ้น ดังนั้นตนจึงไม่ได้อยู่ในสำนวนแรก แต่ตอนนี้ สำนวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากเป็นคดี นอกราชอาณาจักร ส่วนที่กล่าวอ้างว่ามีตำรวจที่ทำคดีดังกล่าวถูกโยกย้าย นายอุปกิต ยืนยันว่า ไม่มีอำนาจหรือกดดันให้ใครย้ายตำรวจคดีนี้ได้ แต่เท่าที่ทราบเป็นการโยกย้ายตามวงรอบ และไม่มีผลงานในช่วง 3-4 เดือน และไม่ได้เป็นการย้ายเพื่อลงโทษ แต่เป็นการย้ายในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นหากตนเป็นผู้มีอิทธิพลสามารถสั่งย้ายตำรวจได้ ก็คงสั่งย้ายไปให้ไกลกว่านี้ พร้อมย้ำว่าตำรวจกลุ่มนี้ไม่ได้ทำคดีของตนตั้งแต่แรก

นายอุปกิต กล่าวอีกว่า นายรังสิมันต์ พยายามโจมตีทำให้ตนเสียหายอย่างหนักจากการอภิปรายในสภา ทั้งๆ ที่ตนไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ แต่ก็ต้องขอบคุณที่ทำให้กลับไปตรวจสอบข้อมูลจนพบว่า บทสนทนาในแอปพลิเคชัน Viber ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันแช็ตที่ใช้ในประเทศเมียนมา พบว่ามีการตกแต่งข้อความเพื่อดำเนินคดีกับตน จึงเป็นที่มาของการถอนหมายจับในวันเดียวกันกับที่ถูกออกหมายจับ

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่านำเงินที่ค้ายาเสพติด มาฟอกผ่านธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าระหว่างไทยกับเมียนมานั้น นายอุปกิต ชี้แจงว่า ไม่มีใครคิดนำเงินค่าไฟฟ้าที่ถูกกฎหมาย ไปเปลี่ยนให้เป็นเงินผิดกฎหมาย

ขณะเดียวกัน นายอุปกิต ตั้งข้อสังเกตว่า มีนายตำรวจระดับ พันตำรวจโท สื่อมวลชนบางสำนัก รวมถึงนักวิชาการ มีความใกล้ชิดกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลที่พรรคก้าวไกลนำมาเสนอ มักจะถูกแชร์อยู่ในโลกออนไลน์จากสื่อมวลชนบางคน ด้วยความรวดเร็วและมีความชำนาญในการใช้สื่อโซเชียลเป็นอย่างดี อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า นายตำรวจบางคนอาจมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพราะเอกสารคดีความบางฉบับไปอยู่ในมือของนักการเมือง

“ตนและครอบครัวจึงขอความเป็นธรรม เพราะกำลังเป็นเหยื่อทางการเมือง ใช้เพื่อการหาเสียง แต่ก็มั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมจะไม่มีใครสามารถก้าวก่ายหรือแทรกแซงได้ โดยจะเดินทางไปยื่นฟ้องเอาผิดกับทุกคน ที่เกี่ยวข้องกับการใส่ร้ายป้ายสีให้ตนเสื่อมเสียที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบในวันนี้ หากชนะคดี จะนำเงินที่ได้ไปบริจาคให้กับการกุศล ยืนยันว่าตนเพียงแค่ต้องการกอบกู้ชื่อเสียงและเกียรติยศของวงศ์ตระกูลเอาไว้เท่านั้น” นายอุปกิต ระบุ

641400a6bbb7b6.44270085.jpg

นายอุปกิต ยังพนมมือยกขึ้นท่วมหัวสาบานทั้งน้ำตาต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าตนและครอบครัวไม่เคยเกี่ยวข้องกับธุรกิจยาเสพติดอย่างที่ถูกกล่าวหา หากใครที่ใส่ร้ายตนเองและครอบครัวขอให้ประสบพบเจอแต่ความวิบัติ

สำหรับกรณีการปล่อยอาคารในซอยอารีย์ ให้พรรครวมไทยสร้างชาติเช่าเป็นที่ทำการพรรคนั้น นายอุปกิต ยืนยันว่ามีสัญญาเช่าถูกต้องตามกฎหมาย โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาติดต่อขอเช่าตั้งแต่ปีที่แล้ว บอกว่าจะใช้เป็นอาคารสำนักงานส่วนตัว และมาทราบภายหลังว่าเปลี่ยนวัตถุประสงค์เป็นที่ทำการพรรคการเมือง

โดยนายอุปกิตยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นการส่วนตัว แต่คิดว่าที่ได้รับเลือกให้เป็น สว. ก็เพราะว่าตนมีความชำนาญด้านการต่างประเทศและการไฟฟ้า ยืนยันได้ว่าตนไม่ได้เป็นนายทุนให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง