เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวฝรั่งเศสกว่า 2,000 คน ที่ออกมรวมตัวบริเวณจัสตุรัสปลาส เดอ ลา กงกอร์ด (Place de la Concorde) ในกรุงปารีส เมื่อวานนี้ ระหว่างการประท้วงเรียกร้องให้ยกเลิก นโยบายปฏิรูปเงินบำนาญ หลังจากนางเอลิซาเบธ บอร์น (Elisabeth Borne) นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสใช้อำนาจพิเศษผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านสภา โดยไม่มีการลงคะแนนเสียง สร้างความไม่พอใจให้กับชาวฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก และเป็นชนวนเหตุให้เกิดการประท้วงต่อเนื่องทวีความรุนแรงขึ้น จนเกิดกระแสเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลงจากตำแหน่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงก๊าซน้ำตา และใช้ปืนฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ประท้วงเพื่อสลายการชุมนุม ขณะที่ในอีกหลายเมืองของฝรั่งเศส อาทิ มาร์เซย (Marseille) และ นองต์ (Nantes) ก็เกิดการประท้วงเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นโยบายปฏิรูปเงินบำนาญ มีผลให้ต้องยืดเวลาเกษียณอายุของชาวฝรั่งเศสออกไป จากเดิม 62 ปี เป็น 64 ปีแทน ทำให้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา กลุ่มสหภาพแรงงานฝรั่งเศส หรือ เซ-เฌ-เต (CGT) ได้รณรงค์นัดหยุดงานประท้วงเป็นระยะๆ ส่งผลกระทบให้การคมนาคม-การขนส่ง รวมทั้ง การเก็บขยะติดขัดอย่างมาก โดยพบว่ามีขยะกว่า 4 ล้านกิโลกรัม ที่รอการเก็บเกลื่อนกลาดไปทั่วสถานที่สำคัญรอบกรุงปารีส ทั้งนี้กลุ่มสหภาพแรงงานยังเผยอีกว่า จะนัดหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่อีกครั้งในวันที่ 23 มีนาคมนี้
