จอดรถหน้าบ้านตัวเอง ถูกเพื่อนบ้านแจ้งตำรวจจับ จ.นนทบุรี

View icon 671
วันที่ 17 มี.ค. 2566 | 16.07 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เรื่องการจอดรถหน้าบ้านกันอีกแล้ว สาวใหญ่เจ้าของบ้านสุดงง จอดรถหน้าบ้านตัวเอง แต่ถูกป้าที่บ้านข้างบ้านแจ้งตำรวจจับ จนทำให้เกิดปะทะคารมกัน แถมเพื่อนบ้านยังแฉป้าถึงพฤติกรรมป้า มีการปล่อยสุนัขกัดคนในซอยอีก

นี่เป็นคลิปที่มีหญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์ปะทะคารมกันกับเพื่อนบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน หลังจากมีปัญหาเรื่องการจอดรถและถูกเพื่อนบ้านนำราวตากผ้าตั้งตากแดดหน้าบ้าน จนเกิดการโต้เถียงกัน

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดังกล่าวที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี พบกับ นางสาวมัลลิกา อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ปะทะคารมไว้ กล่าวว่า ตนกับครอบครัวได้ย้ายมาอยู่อาศัยที่บ้านพักหลังนี้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา โดยเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่เกือบติดท้ายซอย โดยบ้านของคู่กรณีจะอยู่ติดท้ายซอย และได้ปลูกต้นไม้สร้างสวนหย่อมขึ้นเต็มพื้นที่บนถนนหน้าบ้านพักของเขา จนแทบไม่มีทางเข้าออก

กระทั่งเมื่อประมาณวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากตนขับรถยนต์ออกไปทำธุระนอกบ้านแล้วกลับเข้ามา ก็พบว่าเพื่อนบ้านรายดังกล่าวได้นำราวตากเสื้อผ้ามาตั้งแขวนตากแดดเต็มหน้าบ้านของตน ทำให้ตนไม่สามารถนำรถเข้าจอดบนถนนหน้าบ้านได้ ตามปกติ ตนจึงเดินไปเรียกให้เขามาขยับราวตากผ้าออกไป แต่กลับถูกเพื่อนบ้านรายนี้ต่อว่าด่าทอต่าง ๆ นานา แต่ตนก็ข่มใจไม่พยายามตอบโต้อะไรกลับไป

จนเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนกับลูกสาวยืนคุยกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอยู่นั้น รถของเพื่อนบ้านรายนี้ได้ขับเข้ามาสุดซอยแล้วจอดขวางหน้าบ้านของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง ก่อนที่หญิงสูงวัยในรถจะเปิดประตูรถลงมาแล้วต่อว่าพวกตนที่ยืนคุยกันอยู่ว่า ไม่มีสามัญสำนึก จึงทำให้ลูกสาวตนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยทนไม่ไหว โต้เถียงกับหญิงสูงอายุคนดังกล่าวไป ว่าใครกันแน่ที่ไม่มีสามัญสำนึก ยึดพื้นที่ถนนส่วนกลางไปปลูกต้นไม้ จนเข้าออกบ้านตัวเองไม่ได้ ต้องมาอาศัยออกที่หน้าบ้านคนอื่นยังไม่พอ ยังเอาราวตากเสื้อผ้ามาตั้งขวางหน้าบ้านคนอื่นอีก จากนั้นชายสูงอายุอีกคนได้เข้ามาต่อว่าตน ถนนเป็นของส่วนกลางไม่มีโฉนด ใครจะทำอะไรก็ได้ หากไม่พอใจก็ไปขึ้นศาลกัน จากนั้นชายสูงอายุเพื่อนบ้านคนดังกล่าวก็ถ่ายรูปรถยนต์ของตนแล้วหายเข้าบ้านไป

หลังจากนั้นไม่นาน จู่ ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสองคนขับรถจักรยานยนต์เข้ามาที่หน้าบ้านพักตน โดยบอกว่ามีคนโทรไปแจ้งความว่าบ้านตนจอดรถกีดขวางทางเข้าออกบ้านพักคนอื่น ตนจึงได้ชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูว่า รถยนต์ของตนจอดอยู่บนถนนหน้าบ้านในเขตพื้นที่ของตน ไม่ได้จอดล้ำไปยังหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน ตำรวจมาเห็นจึงได้เรียกเขาออกมาคุยด้วยเพื่อไกล่เกลี่ยเจรจาแต่เขาไม่ยอม อ้างตัวว่าเป็นทนายเก่าเดี๋ยวไปจบในชั้นศาล จนเจ้าหน้าที่ตำรวจจนใจที่จะอธิบายแล้วเดินทางกลับไป

หลังจากนั้นเพื่อนบ้านทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชายเดินทางออกไปนอกบ้านได้ไม่นาน ก็มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดใหม่ขับเข้ามาที่หน้าบ้านตนอีก โดยบอกว่ามีคนแจ้งเหตุจอดรถกีดขวางเข้าไป จึงต้องมาดู ซึ่งตนก็ได้อธิบายกลับไปเหมือนที่ได้อธิบายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแรก ต่อมาตนได้นำรายชื่อของเพื่อนบ้านในซอยที่ได้รับผลกระทบจากเพื่อนบ้านหลังนี้ ที่ยังมีพฤติกรรมเลี้ยงสุนัขแล้วปล่อยให้สุนัขไปไล่กัดคนในซอยโดยไม่ห้ามปราม รวมถึงวัชพืชต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่ขึ้นอยู่หน้าบ้านจนกิ่งไประโยง ระยางกับสายไฟฟ้า เคยมีคนยื่นร้องเรียนกับฝ่ายนิติของหมู่บ้านไปแล้ว แต่เรื่องก็เงียบไม่มีคำตอบคำชี้แจง หรือ วิธีแก้ไขใด ๆ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อย ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบ จึงพบว่าเพื่อนบ้านรายนี้มีเรื่องถูกร้องเรียนเข้ามาแล้วหลายครั้ง ทั้งพฤติกรรมที่ยึดพื้นที่บนถนนส่วนกลางเป็นพื้นที่ส่วนตัว เรื่องเลี้ยงสุนัขที่ปล่อยให้หลุดไปไล่กัดผู้อื่นด้วย ซึ่งเรื่องนี้ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อย ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะติดในเรื่องกฎหมายที่หมู่บ้านแห่งนี้ ยังคงเป็นของฝ่ายนิติบุคคลของหมู่บ้านที่ปกครองดูแลกันเองอยู่ ไม่ได้ยกพื้นที่ให้ทางเทศบาล หรือ อบต. เป็นผู้ดูแล

ศูนย์ดำรงธรรม จะได้เร่งรัดให้ฝ่ายนิติบุคคลของหมู่บ้านแห่งนี้ เร่งบังคับใช้กฎระเบียบของหมู่บ้านอย่างเคร่งครัดต่อไปกับเจ้าของบ้านรายนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งร้องเรียนกันจนกลายเป็นเหตุบานปลายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง