พฐ.ตรวจหากระสุน-ปลอก คดีสารวัตรกานต์ เพิ่ม

View icon 20
วันที่ 18 มี.ค. 2566 | 16.36 น.
เจาะประเด็นข่าว 7HD
แชร์
เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตำรวจลงพื้นที่ไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากเหตุการณ์ที่ "สารวัตรกานต์" เกิดอาการคลุ้มคลั่งยิงปืนในบ้านตัวเอง เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ซึ่งในท้ายที่สุดก็คาดว่าจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากผู้ต้องหาเสียชีวิต

ตำรวจหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ EOD พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สน.สายไหม, สำนักงานเขตสายไหม และเจ้าหน้าที่เพจสายไหมต้องรอด ร่วมกันไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบ้านพักของ พันตำรวจโท กิตติกานต์ หรือ สารวัตรกานต์ ที่เกิดอาการคลุ้มคลั่งยิงปืนในบ้านตัวเอง ภายในหมู่บ้านมั่นคง 2 ซอยสายไหม 46 เพื่อหาวัตถุพยานนำไปใช้ประกอบสำนวนคดีเพิ่มเติม

พันตำรวจเอก รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำการ สน.สายไหม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน ได้พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับ "สารวัตรกานต์" ใน 5 ข้อหา เช่น พยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ยิงปืนในที่สาธารณะ ซึ่งการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่เสร็จสิ้น จึงต้องประสานหน่วยงานต่าง ๆ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ หาพยานหลักฐานโดยเฉพาะกระสุนและปลอกกระสุน เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี แต่อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดคดีนี้ ก็ต้องมีความสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากผู้ต้องหา คือ "สารวัตรกานต์" ได้เสียชีวิตแล้ว

ส่วนประเด็นเรื่องกระแสกัญชาที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจร้านขายต้นไม้ย่าน อตก. พูดคุยกับคนขายต้นกัญชา ซึ่งก็ยอมรับว่า ปัจจุบันคนซื้อต้นกัญชาน้อยลงไปมาก เมื่อเทียบกับช่วงแรก ๆ ที่มีการปลดล็อก ซึ่งเดิมทีเคยขายได้วันละกว่า 10 ต้น ต่างจากช่วงนี้ ยอดขายลดลง แต่ก็ยังพอขายได้เรื่อย ๆ มีลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ หันมาซื้อไปปลูกเอง เริ่มต้นราคา 100 บาท ลดลงจากเดิมที่เคยขายในราคา 250 บาท เนื่องจากต้นกัญชามีขายจำนวนมาก อีกทั้งประชาชนปลูกเองได้ จึงไม่ได้รับความนิยมเหมือนช่วงแรก ๆ

เรื่องนี้น่าเป็นห่วง โดย ผู้ช่วยศาสตราจาารย์ นายแพทย์ สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ หัวหน้าสาขาวิชานิติเวชศาสตร์ ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นห่วงคนไทยนำกัญชามาใช้ในทางนันทนาการมากขึ้น ใช้กันอย่างเสรีจนเกินเหตุ น่าเป็นห่วงสุขภาพกาย และสุขภาพจิต เพราะการนำกัญชามาสูบ ไม่ต่างอะไรจากการใช้สารเสพติด ที่ไร้กฎหมายควบคุม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง