วันที่ 18 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง จากนายสุวิต อายุ 60 ปี และน.ส รัฐนันท์ อายุ 30 ปี สองพ่อลูก ว่าถูกการไฟฟ้าเรียกปรับเงินจำนวน 34,500 บาทซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะถูกกล่าวหาว่าทำการเปลี่ยนแปลงหม้อมิเตอร์ขนาด 15 แอมป์ ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ได้เป็นคนทำ
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่หมู่บ้าน ที่ ต.เนินพระ อเมือง จ.ระยอง บ้านทาวเฮาส์ 2 ชั้น พบนายสุวิต อายุ 60 ปีและน.ส รัฐนันท์ อายุ 30 ปี สองพ่อลูก นำหลักฐานบิลค่าไฟฟ้าแต่ละเดือน และหนังสือรับสภาพหนี้ หนังสือขอผ่อนชำระหนี้ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาให้ดู
นายสุวิต บอกว่า ตนเองมีอาชีพขับรถรับจ้าง ส่วนลูกสาว ทำงานอิสระ เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่กำลังขับรถ มีโทรศัพท์เข้ามา แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าจะขอเข้ามาตรวจหม้อมิเตอร์ที่บ้าน ตนเองจึงบอกว่าไม่อยู่บ้าน แต่ว่ามีลูกสาวอยู่ จากนั้นเขาก็วางสายไป ซึ่งตอนนั้นก็ยังเอะใจว่าเขามีเบอร์โทรศัพท์เราได้อย่างไร และรู้จักชื่อเราได้อย่างไร ก็ยังสอบถามไปเจ้าหน้าที่ไฟฟ้า ที่โทรมาบอกว่า มีชื่อและเบอร์โทรจากฐานข้อมูล ต่อมา จึงได้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสำรวจหม้อมิเตอร์แล้วแจ้งว่า มีการดัดแปลงหม้อมิเตอร์ซึ่งจะต้องแก้ไขให้ และนำไปสู่การถูกปรับจำนวน 34,500 บาท ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรกับหม้อมิเตอร์เลย ตั้งแต่ซื้อบ้านหลังนี้มา 5 ปี ก็จ่ายค่าไฟฟ้าพันกว่าบาท ทุกเดือนที่บ้านอยู่กัน 3 คน มีแอร์ 2 ตัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆปกติ หากมีความผิดปกติเรื่องค่าไฟฟ้า ก็น่าจะแจ้งเตือนมานานแล้ว อีกทั้งที่หม้อมิเตอร์ก็ไม่มีร่องรอยการแกะแต่อย่างใด ดังนั้นการไฟฟ้ามายัดข้อหาให้แบบนี้จึงไม่เป็นธรรม
ด้าน น.ส รัฐนันท์ บอกว่า วันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาด้วยกัน 3 คน ตรวจที่มิเตอร์หน้าบ้าน แล้วก็บอกว่า มีการสลับสาย ทำให้ค่าไฟถูกลง จะแก้ไขให้เป็นปกติ จากนั้นก็ให้เซ็นรับทราบว่ามีเจ้าหน้าที่มาทำการแก้ไขแล้ว และเจ้าหน้าที่ยังบอกให้ไปที่สำนักงานการไฟฟ้า ซึ่งตนเองก็เดินทางไป เจ้าหน้าที่ที่สำนักงานไฟฟ้าแจ้งว่า จะต้องมีการเสียค่าปรับ โทษฐานดัดแปลงหม้อไฟ ซึ่งตนเองได้ยืนยันว่าไม่เคยทำ และไม่รู้เรื่องจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ยืนยันให้จ่ายค่าปรับจำนวน 34,500 บาท หากไม่เซ็นต์ยินยอมก็จะถูกตัดไฟในวันรุ่งขึ้นตนจึงต้องจำยอมเซ็นรับสภาพ เพื่อไม่ให้ถูกตัดไฟ โดยขอผ่อนจ่าย 10 เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่านอกจากค่าปรับ 34,500 แล้วยังจะมีค่าไฟฟ้าย้อนหลังอีกด้วย ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นจำนวนเงินอีกเท่าไหร่ ทำให้ตนและพ่อรู้สึกเสียใจ ที่ต้องมาเป็นหนี้ ทุกวันนี้ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ หากต้องมาจ่ายเงินในความผิดที่ไม่ได้ก่อ ก็รู้สึกเสียใจมาก