เช้านี้ที่หมอชิต - นายกสมาคมตำรวจ เชื่อศาลจะทำความจริงให้ปรากฏ กรณีถอนหมายจับ "สว.อุปกิต" แนะสังคมต้องให้กำลังใจตำรวจชั้นผู้น้อย ที่เอาจริงเอาจังในการปราบปรามยาเสพติด ไม่ว่าคนที่เกี่ยวข้องจะเป็นใคร ต้องได้รับโทษ
พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร. ปัจจุบันเป็นนายกสมาคมตำรวจ กล่าวถึงกรณีการแทรกแซงหมายจับคดี สว.อุปกิต ว่าตนเองเชื่อมั่นว่าทางคณะกรรมการตุลาการ ศาลฎีกา ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เชื่อว่าทางนั้นคงจะมีบทสรุปที่ถูกต้องและไม่เข้าข้างผู้ใด สำหรับการถอนหมายจับ สมัยที่รับราชการตำรวจ เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะมีใครก็ไม่รู้มาแทรกแซง ทั้งการสั่งย้ายตำรวจที่ทำคดีนี้ ไม่ให้ได้ทำคดีต่อไป และยังไปมีอิทธิพลต่อการทำหน้าที่ของศาลด้วย
พล.ต.อ.วินัย ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ทุกฝ่ายก็ได้เห็นแล้วว่ามันเกิดความผิดปกติขึ้น เชื่อว่าขณะนี้ทางศาลกำลังพยายามจะทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏ ส่วนการออกมาชี้แจงแถลงข่าวของนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ผู้ถูกกล่าวหาคดีฟอกเงินและค้ายาเสพติด ซึ่งขู่ว่าจะฟ้องตำรวจและคนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งข้อหานั้น มองว่าเขาก็มีสิทธิที่จะออกมาชี้แจงและแสดงเหตุผลได้
แต่ว่าพนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีนี้ ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนเชื่อได้ว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจริง นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่จะต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ตัดสินว่าใครผิดใครถูก
โดยก่อนหน้านี้ ทางสมาคมตำรวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสมาคมพนักงานสอบสวน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ โดยระบุว่า การขอหมายจับของ พันตำรวจโทมานะพงษ์ เป็นกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะตำรวจไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน หรือพนักงานสอบสวน ย่อมมีอำนาจร้องขอให้ศาลออกหมายจับได้ หากเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวน
อีกทั้งการขอหมายจับของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด จะต้องมีการนำข้อมูลมารายงานในระบบของตำรวจ ที่เชื่อมโยงกับระบบของศาล จึงไม่ใช่การออกหมายลอย หรือการขออำนาจในการจับกุมตามอำเภอใจ แต่เป็นไปตามพยานหลักฐาน และภายใต้กฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ยังกำหนดให้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลก่อน ถึงจะไปขออนุมัติแจ้งข้อหาต่อเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดังนั้นการขอหมายจับดังกล่าว จึงเป็นการจับโดยชอบด้วยกฎหมาย
ในแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า เมื่อศาลใช้ดุลยพินิจชอบด้วยกฎหมาย หมายจับที่ศาลได้ออกให้ ก็ต้องชอบด้วยกฎหมาย การเพิกถอนหมายจึงต้องมีเหตุตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือระเบียบเป็นหลักในการพิจารณา ไม่ใช่การอ้างเรื่องผิดหลักในวิธีการปฏิบัติงาน
