คอลัมน์หมายเลข 7 : เตรียมจับอีกล็อต พบเส้นเงินโยงเครือข่ายทุจริตสหกรณ์ตำรวจพัทลุง

View icon 205
วันที่ 20 มี.ค. 2566 | 20.12 น.
ข่าวภาคค่ำ
แชร์
ข่าวภาคค่ำ - คดีมหากาพย์ 20 ปี ทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท ยังไม่จบง่าย ๆ คุณมะลิ แซ่ฉิ่น ติดตามเรื่องนี้ พบว่าปัจจุบันสหกรณ์ฯ กำลังประสบกับปัญหาขาดสภาพคล่อง ขณะที่ตำรวจตรวจพบเส้นเงินถูกถ่ายโอนออกไปอีก และเตรียมที่จะออกหมายจับเพิ่ม ติดตามรายละเอียดกับ คุณมะลิ แซ่ฉิ่น

บ้าน ที่ดิน รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เกือบ 20 รายการ เป็นทรัพย์สินเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่งที่ตำรวจบุกเข้าไปยึดได้จากพื้นที่เป้าหมาย 24 จุด ใน 7 จังหวัด รวมมูลค่ากว่า 62 ล้านบาท หลังตั้งข้อเกตว่าทรัพย์ที่ยึดมาได้กว่า 900 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ ยังน้อยกว่ามูลค่าความเสียหาย

จึงทำการตรวจสอบขยายผลเส้นเงินของทีมบริหารสหกรณ์ตำรวจพัทลุง ที่ถูกออกหมายจับและดำเนินคดีเพิ่มเติม

และเมื่อตรวจเชิงลึก จึงพบว่าทีมบริหารสหกรณ์ตำรวจพัทลุง ได้โอนถ่ายเงินที่เบิกมาเดือนละเกือบ 6 ล้านบาท ไปหาบุคคลหลายกลุ่ม ซึ่งเกี่ยวพันและมีสถานะเป็นเครือญาติ ก่อนจะนำไปซื้อบ้าน ที่ดิน รถยนต์ และรถจักรยานยนต์

ย้อนกลับไปเรื่องราวพฤติกรรมฉ้อฉล การทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งตำรวจในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ได้ยื่นเอกสารร้องขอให้ตรวจสอบความผิดปกติ จนมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาสอบสวนขยายผล พบว่าเรื่องนี้มีผู้ร่วมกระทำผิดกันเป็นขบวนการ ตั้งแต่การวางแผน แบ่งหน้าที่กันทำ เช่น การใช้ชื่อคนตายมาร่วมกู้กว่า 80 ชื่อ เพิ่มสมาชิกที่ไม่มีตัวตนอีก 300 กว่าคน เบิกเงินสดเกินสัญญาเงินกู้อีกเท่าตัว ตกแต่งบัญชี ใช้เอกสารปลอม และปลอมแปลงใบเสร็จรับเงิน จนมูลค่าความเสียหาย สูงกว่า 1,500 ล้านบาท

ขณะที่จากการติดตามสถานะปัจจุบันของ สหกรณ์ตำรวจพัทลุง พบว่ากำลังประสบกับปัญหาขาดสภาพคล่อง

ในห้วงระยะเวลาเกือบ 1 ปี กับมหากาพย์การทุจริตที่สะสมนานร่วม 20 ปี ซึ่งคอลัมน์หมายเลข 7 ได้ติดตามตั้งแต่รับเรื่องร้องเรียน ค้นหาเบาะแส ตรวจสอบเส้นทางการเงิน จนวันนี้ตำรวจได้ออกหมายจับและดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมแล้ว 31 ราย และกำลังเตรียมที่จะออกมาหมายจับเพิ่มเติมอีก หลังพบเส้นทางการเงินความผิดปกติ นอกเหนือจากกลุ่มที่ถูกดำเนินคดี

สรุปผลการปฏิบัติการเข้าตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีร่วมกันทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง มูลค่าความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท เวลานี้ตำรวจสามารถติดตามตรวจยึดอายัดทรัพย์สินคืนมาได้แล้วหลายรายการ รวมมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท

และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกที่ได้รับผลกระทบ และทันทีที่กระบวนการทางกฎหมายแล้วเสร็จ ผู้เสียหายซึ่งเป็นสมาชิกที่เจียดเงินเดือนมาลงทุนกับสหกรณ์ก็จะได้รับการเยียวยา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง